รอยเตอร์/เอพี - ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร (6 มิ.ย.) คาดสต๊อกพลังงานสหรัฐฯ จะลดลง ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ และทองคำพุ่ง 14 ดอลลาร์ นักลงทุนเทขายหุ้นหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ท่ามกลางประเด็นเศรษฐกิจและการเมืองโลก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 79 เซ็นต์ ปิดที่ 48.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 65 เซ็นต์ ปิดที่ 50.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
มหาอำนาจอาหรับอย่างซาอุดีอาระเบีย, อียิปต์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูต และสายสัมพันธ์อื่นๆ โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งกับกาตาร์เมื่อวันจันทร์ (5 มิ.ย.) โดยกล่าวหาโดฮาสนับสนุนนักรบอิสลามิสต์และอิหร่าน ทั้งนี้มีรายงานว่า การขนส่งสินค้าทางเรือทั้งมุ่งสู่และออกมาจากกาตาร์ถูกห้ามเทียบท่าในฟูไจราห์ของยูเออี
นักลงทุนบางส่วนกังวลว่าข้อพิพาททางการทูตดังกล่าวอาจกระพือความตึงเครียดภายในโอเปก และกัดเซาะพันธสัญญาของกาตาร์ที่จะลดกำลังผลิตเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าความกังวลเหล่านั้นดูจะเกินเลยไป ขณะเดียวกันราคาน้ำมันในวันอังคาร (6 มิ.ย.) ยังได้แรงหนุนจากความคาดหมายว่าตัวเลขคลังน้ำมันดิบสำรองรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (7 มิ.ย.) จะลดลง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (6 มิ.ย.) ปิดลบเล็กน้อย นักลงทุนเขขายสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมือง ทั้งในตะวันออกกลาง อเมริกา สหราชอาณาจักร และยุโรป
ดาวโจนส์ ลดลง 47.81 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,136.23 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.77 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,429.33 จุด แนสแดค ลดลง 20.63 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,275.06 จุด
นอกจากวิกฤตในตะวันออกกลางแล้ว ศึกเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักร เพื่อปูทางสำหรับถอนตัวจากอียู, การประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรปและการเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาของ เจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอ ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ปัญหาต่างๆ ข้างต้นกระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันอังคาร (6 มิ.ย.) พุ่งแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 14.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,297.50 ต่อออนซ์