เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) นักวิ่งร่วม 40,000 คนเข้าร่วมงาน #วิ่งเพื่อแมนเชสเตอร์ ในเมืองแมนเชสเตอร์ หลังเกิดเหตุก่อการร้ายคอนเสิร์ต อารีอานา แกรนเด คืนวันจันทร์ (22 พ.ค.) ก่อนหน้า ชาวเมืองแสดงสปิริต แมนเชสเตอร์ไม่เคยแพ้ เกิดขึ้น 1 วัน หลังตำรวจอังกฤษแฉภาพกล้องทีวีวงจรปิดชี้ช่วงเวลาก่อนโจมตี ซัลมาน อาเบดี มือระเบิดวัย 22 ปี อยู่ในชุดปกปิดมิดชิด แจ็กเกตกันหนาวสีดำ มือซุกที่จุดระเบิด ในตัวลิฟต์สถานีรถไฟแมนเชสเตอร์วิกตอเรียห่างแค่ 65 หลาจากสถานที่จัดคอนเสิร์ต
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯ รายงาน (28 พ.ค.) ว่า ประชาชนจำนวนมากต่างเข้าร่วมงานวิ่งในเมืองแมนเชสเตอร์ แสดงความเป็นหนึ่งเดียวหลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมมีผู้เสียชีวิต 22 คน ที่มีเด็กอายุ 8 ขวบรวมอยู่ในนั้น และผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมากในช่วงต้นสัปดาห์
โดยพบว่า งาน “#วิ่งเพื่อแมนเชสเตอร์” ล่าสุดนี้ได้กลายเป็นงานวิ่งครั้งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในระยะทางการวิ่งบนท้องถนนพิสัย 10 กม. ในวันอาทิตย์ (28 พ.ค.) ซึ่งเดลีเมลรายงานว่า เป็นการจัดงานประจำปีที่ในปีนี้มีผู้เข้าร่วมถึง 40,000 คน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดที่เห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจถือปืนไรเฟิลกระจายอยู่ใกล้ๆ ฝูงชน
โดยในกำหนดการพบว่า ฮาล์ฟมาราธอนนั้นเริ่มในเวลา 09.00 น. ส่วนระยะทางที่ไกลกว่าเริ่มในเวลา 12.45 น. สื่ออังกฤษชี้
ภาพส่งเสียงเชียร์สนั่นจากผู้เข้าชมให้กับบรรดานักวิ่งฝ่าเข้าสู่เส้นชัยให้สำเร็จนั้นถูกกระจายไปทั่วโลกโซเชียลมีเดีย เป็นการแสดงพลังของชาวแมนเชสเตอร์ ประกาศสปิริต แมนเชสเตอร์ไม่เคยแพ้ ถึงแม้จะต้องตกอยู่ในภาวะการก่อการร้าย
สื่อสหรัฐฯรายงานว่า และในการจัดงานเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) พบว่ามีเด็กๆ เข้าร่วมเช่นกันในส่วนของงาน “วิ่งมินิ เกรตแมนเชสเตอร์” (the Mini Great Manchester Run) ซึ่งถือเป็นเทศกาลวิ่งประจำปีของเมือง
ทั้งนี้ การจัดงานวิ่งร่วมพลังแมนเชสเตอร์เกิดขึ้นในวันเดียวกัน (28 พ.ค.) กับที่ทางตำรวจอังกฤษประกาศ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีก่อการร้ายคอนเสิร์ตอารีอานา แกรนเด ได้เพิ่มอีก 1 รายเป็นชาย ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิด ทำให้ล่าสุดมีผู้ต้องสงสัยอยู่ในการควบคุมตัวทั้งหมด 13 รายในเวลานี้ ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษ แอมเบอร์ รัดด์ (Amber Rudd) ระบุ เชื่อต้องมีสมาชิกเซลส์ก่อการร้ายเกี่ยวข้องมือระเบิดที่ยังอยู่หลงเหลือในระหว่างการหลบหนี
การประกาศ ส่งผลทำให้สังคมอังกฤษเกิดความวิตก หลังพบทางตำรวจอังกฤษยังไม่สามารถจับกุมเซลเครือข่ายก่อการร้ายไว้ได้ทั้งหมด แต่ในวันเสาร์ (27 พ.ค.) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ กลับลดระดับเตือนภัยจากร้ายแรงสูงสุด ไปสู่ร้ายแรง อ้างความคืบหน้าการสอบสวน
โดยสื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ทางตำรวจอังกฤษในวันเดียวกัน (27 พ.ค.) ประกาศความสำเร็จ สามารถจับกุมเครือข่ายส่วนใหญ่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายไว้ได้ จากการที่อังกฤษตั้งสมมติฐาน “ไม่เชื่อว่า ซัลมาน อาเบดี นั้นจะสามารถลงมือก่อเหตุก่อการร้ายได้เพียงลำพัง” โดยเดลีเมล์ สื่ออังกฤษระบุว่า ทางตำรวจอังกฤษรู้ถึง “ตัวการหลัก” ในเซลส์ก่อการร้ายอาเบดีแล้ว
นอกจากนี้ NBC NEWS ยังชี้ว่า ตลอดช่วงทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ อังกฤษส่งกองกำลังตำรวจอารักขาเข้มเดินตามท้องถนน ล่วงหน้าก่อนวันจันทร์ (29 พ.ค.) ถือเป็นวันหยุดธนาคารประจำหน้าฤดูใบไม้ผลิ และกลายเป็นวันหยุดยาวสำหรับคนอังกฤษ
เดอะซันรายงานว่า และพบว่าตำรวจเกรตเตอร์แมนเชสเตอร์ได้เผยแพร่ภาพคนร้ายมือระเบิดในช่วงก่อนลงมือ ที่ถูกถ่ายไว้ได้จากกล้องวงจรปิด CCTV ซึ่งจับภาพซัลมาน อาเบดี ที่เป็นภาพแสดงถึงความเป็นคนปกติทั่วๆ ไป ไม่ใช่มือระเบิดฆ่าตัวตายญิฮัดจากกลุ่มก่อการร้าย IS แสดงให้เห็นถึงภัยความน่ากลัวในการลงมือก่อเหตุที่อาจไม่สามารถรับมือได้
โดยในภาพจาก CCTV พบ ภาพชายวัยทำงานตอนต้น ลักษณะใบหน้าคล้ายชาวเอเชียใต้ หรือชาวอาหรับ ที่ไม่ดูมีพิษภัยต่อผู้คน สวมแว่นสายตา หมวกเบสบอลสีดำ เสื้อแจ็กเกตกันหนาวสีดำที่ดูทำให้ผู้สวมตัวใหญ่กว่าปกติ กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม และสวมรองเท้ารุ่นดังสุดฮิต ไนกี้เทรนเนอร์ “แอร์จอร์แดน” ราคา 300 ปอนด์ พร้อมสะพายกระเป๋าคาร์ริมอร์ (Karrimor) ที่มีระเบิดโคตรแม่ของซาตานของก่อการร้ายอยู่ด้านใน
สื่อเดอะซัน อังกฤษชี้ต่อว่า ภาพที่ถูกเผยแพร่เชื่อว่า น่าจะมาจากกล้องทีวีวงจรปิดภายในตัวลิฟต์บริเวณสถานีรถไฟวิกตอเรียที่จะสามารถออกไปยังบริเวณทางออก และสะพานคนเดินได้ ซึ่งจะเป็นทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่จัดงานแมนเชสเตอร์อารีนา ซึ่งเดอะซันชี้ว่า บริเวณลิฟต์ห่างจากสถานที่จัดงานผ่านทางสะพานสกายวอล์ก ที่อาเบดีใช้เวลาเดินไประยะ 65 หลาเท่านั้น และต่อมาในเวลา 22.30 น. ซัลมาน อาเบดี ได้จุดระเบิดทีมีตะปูและนอตอยู่ด้านใน
เดลีเมล์รายงานเพิ่มเติมว่า ในการโจมตีก่อเหตุ มือก่อการร้ายใช้ทุนกู้ยืมทางการศึกษา 7,000 ปอนด์ ในการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแซลฟอร์ด (Salford University) ที่เขาได้เลิกเรียนก่อนหน้า โดยพบว่าก่อนลงมือ มือระเบิดฆ่าตัวตายได้ลงทุน 75 ปอนด์ต่อคืนสำหรับการเช่าแฟลตในแกรนด์ โรว์ (Granby Row) ใกล้สถานีรถไฟพิคคาดิลลี (Piccadilly station) ซึ่งเขาได้แอบเช่าไว้ล่วงหน้า 4 วันก่อนลงมือ
ในเรื่องนี้ RT รายงานว่า ทางตำรวจเกรตเตอร์แมนเชสเตอร์ได้ออกแถลงการณ์ ความว่า “วันนี้ทางเราได้เผยแพร่ภาพของซัลมาน อาเบดี จากล้องทีวีวงจรปิด CCTV ทางเรากำลังรวบรวมหลักฐานในการสอบสวนความเคลื่อนไหวของอาเบดี และในเวลานี้ทางเราขอความร่วมมือจากใครก็ตามที่ทราบเบาะแสความเคลื่อนไหวของคนร้ายตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. หลังจากที่เขากลับเข้ามาอังกฤษไปจนถึงคืนวันจันทร์”
ในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “ทางเราทราบว่า สถานที่สุดท้ายที่อาเบดีอยู่ในเมือง คือ แฟลตกลางเมือง และจากที่นั่น คนร้ายได้เดินทางไปก่อเหตุที่แมนเชสเตอร์อารีนา ซึ่งแฟลตแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ทางตำรวจเชื่อว่า อาจจะเป็นสถานที่สุดท้ายสำหรับการประกอบระเบิด”
และพบว่าก่อนหน้านี้ ชายผู้นี้ได้เดินทางไปยังเยอรมันและตุรกี
ในเรื่องนี้ได้มีการเปิดเผยว่า มีการประชุมลับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงเยอรมนีที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการหารือถึงภัยคุกคามยุโรปจากเซลก่อการร้าย ที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้เชื่อว่าเป็นผู้วางแผนในการก่อเหตุให้กับอาเบดี
โดยทางฝ่ายเยอรมนีเกรงว่า อาเบดีอาจได้รับคำแนะนำ หรือส่วนประกอบของระเบิด ในขณะที่เขาผ่านทางสนามบินดุซเซลดอฟต์เมื่อวันที่ 18 พ.ค เพื่อบินกลับเข้าแมนเชสเตอร์ และมีรายงานว่า ฮาชเฮม อาเบดี (Hashem Abedi) น้องชายวัย 20 ปีของมือระเบิดฆ่าตัวตาย ถูกตำรวจจับกุมตัว 2 วันหลังจากวันเกิดเหตุ
ในรายงานพบว่า รัฐบาลลิเบียได้อนุมัติให้กองกำลังทหารสามารถบุกเข้าบ้านชายผู้นี้ในกรุงตริโปลี (Tripoli) และควบคุมตัวเขาและพ่อ รอมฎอน อาเบดี (Ramadan Abedi) ซึ่งอาศัยอยู่ในลิเบีย ส่วนพี่ชายคนโต อิสมาอิล อาเบดี (Ismail Abedi) วัย 23 ปีถูกอังกฤษจับกุมได้ในวันอังคาร (23 พ.ค.)
โดยในการให้ปากคำ ฮาชเฮมยอมรับกับทางการลิเบียว่า เป็นผู้หาซื้ออุปกรณ์ทำระเบิดในเมืองแมนเชสเตอร์ให้กับพี่ชายจริง และกล่าวต่อว่า ตัวเขาและพี่ชายนั้นสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย IS พร้อมยังอ้างต่อว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นทำไปเพื่อแก้แค้นให้กับซีเรียและอิรัก
ทั้งนี้ พบว่า พี่น้องอาเบดีได้เดินทางออกจากอังกฤษไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ลิเบียหลังจากได้สะสมส่วนประกอบระเบิด ก่อนที่ซัลมานจะเดินทางกลับมาเพื่อจุดระเบิดฆ่าตัวตายในคืนวันจันทร์ (22 พ.ค.) โดยในการเดินทางกลับเข้าอังกฤษ หลังจากอยู่ในลิเบียนาน 3 สัปดาห์พบว่า ซัลมาน อาเบดีได้ใช้เส้นทางเดินทางออกจากลิเบียเข้าซาอุดีอาระเบีย ทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังเดินทางเพื่อไปแสวงบุญ และกลบร่องรอยด้วยการบินเข้าเยอรมนี ก่อนที่จะย้อนกลับไปอังกฤษ โดยบินลงที่เมืองแมนเชสเตอร์ อันเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้าย
และในการให้คำปากคำกับเจ้าหน้าที่ลิเบีย ยังพบว่า น้องชายของมือระเบิดฆ่าตัวตายยอมรับ มีแผนลงมือโจมตีกรุงตริโปลีด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เดลีเมล์วิเคราะห์ว่า ในการก่อเหตุโจมตีคอนเสิร์ตอารีอานา แกรนเด หากอาเบดีเลือกที่จะใช้ระบบรถไฟเมโทรลิงก์แทรมในการเดินทางไปก่อเหตุจริง จะใช้เวลาเดินทางแค่ 9 นาทีเท่านั้น ซึ่งเดอะซันให้ข้อมูลว่า ระยะห่างจากสถานีพิคคาดิลลีที่ใกล้ที่พักแฟลตที่เช่าและสถานีวิกตอเรียนั้นห่างไปแค่กว่าไมล์เท่านั้น
นอกเหนือจากข้อสันนิษฐานอื่น เดลีเมล์ระบุว่า อาจมีความเป็นไปได้ว่า ภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดที่ทางตำรวจเปิดเผยนั้น อาจมาจากการอยู่บนตัวรถ หรือระหว่างรอ แต่อย่างไรก็ตาม เดอะซันชี้ว่าเป็นภาพที่ถูกถ่ายในระหว่างที่ชายผู้นี้อยู่ภายในลิฟต์โดยสารสถานีรถไฟแมนเชสเตอร์วิกตอเรีย
ทั้งนี้ ความสงสัยเกิดขึ้นเนื่องมาจากทางตำรวจอังกฤษได้ทำสีดำทึบทั้งหมดบริเวณแบ็กกราวนด์ของภาพ ทำให้ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ภาพนี้ถูกถ่ายที่ไหน แต่ทว่าจากลักษณะการยืนของอาเบดี ดูเหมือนว่า เขากำลังพิงอะไรบางอย่าง ซึ่งอาจจะเป็นผนังลิฟต์
ในการแถลงของตำรวจอังกฤษในวันเสาร์ (27 พ.ค.) เดลีเมล์ชี้ว่า ไม่มีการเปิดเผยถึงสถานที่ภาพที่ถูกถ่ายไว้