รอยเตอร์ - ทางการฟิลิปปินส์พบศพพลเรือน 8 คนถูกทิ้งในหุบเขานอกเมืองมาราวี ที่ถูกกลุ่มกบฏมุสลิมฝักใฝ่ไอเอสเข้ายึดมาตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว ตอกย้ำข่าวลือเรื่องนี้ที่แพร่สะพัดมาหลายวัน ขณะเดียวกัน การพบนักรบอินโดนีเซียและมาเลเซียร่วมต่อสู้กับมาอูเต ถือเป็นลางร้ายที่บ่งชี้ว่า ปัญหากลุ่มกบฏมุสลิมหัวรุนแรงของฟิลิปปินส์อาจลุกลามกลายเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของภูมิภาคไปแล้ว
จาเมล ซี แมงกาดัง ตำรวจเมืองมาราวี เปิดเผยในวันอาทิตย์ (28 พ.ค.) โดยอ้างอิงคำบอกเล่าจากผู้จัดการของผู้เสียชีวิตว่า ศพชาย 8 คนที่พบเป็นช่างไม้ ซึ่งอยู่ในขบวนอพยพที่ถูกกลุ่มกบฏเรียกให้หยุดเมื่อคืนวันเสาร์ (27 พ.ค.) และถูกลากตัวลงจากรถบรรทุกเนื่องจากท่องคัมภีร์อัลกุรอานไม่ได้
ชายทั้ง 8 คน ส่วนใหญ่ถูกยิงที่ศีรษะ และบางคนถูกจับมัดมือไพล่หลัง ตำรวจฟิลิปปินส์ยังพบปลอกกระสุน 9 ปลอกตกอยู่บนถนนที่มีคราบเลือดบริเวณยอดเขา นอกจากนี้บนร่างผู้เสียชีวิตคนหนึ่งยังมีคำว่า “Munafik” หรือผู้ทรยศ ประทับอยู่
การพบศพชายเหล่านี้เท่ากับเป็นการยืนยันข่าวลือที่แพร่สะพัดมานานหลายวันว่า กลุ่มกบฏมาอูเตสังหารพลเรือนระหว่างการเข้ายึดเมืองมาราวีในจังหวัดมินดาเนา ซึ่งกองทัพฟิลิปปินส์เชื่อว่า เป็นความพยายามเพื่อทำให้ได้รับการยอมรับจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไออส) ในตะวันออกกลางและกลุ่มก่อการร้ายในสังกัดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพฟิลิปปินส์ส่งกำลังทหารราบไปเพิ่ม และส่งเฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดโจมตีที่มั่นของมาอูเต ขณะที่กบฏกลุ่มนี้ยังคงยึดอาคารหลายหลังและสะพานในตัวเมืองชั้นในของมาราวี ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม และล่าสุดยังมีประชาชนกลุ่มเล็กๆ ติดค้างอยู่
การต่อต้านอย่างดุเดือดจากมือปืนมาอูเตและหลักฐานการสังหารพลเรือนล่าสุด เพิ่มความกังวลว่า กลุ่มกบฏที่ต้องการเป็นสมาชิกของไอเอสตัดสินใจแน่วแน่ในการยึดภาคใต้ของฟิลิปปินส์เป็นที่มั่น โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มมุสลิมสุดโต่งในอินโดนีเซียและมาเลเซีย
เซีย อลองโต อาดิออง นักการเมืองท้องถิ่นที่ช่วยประสานงานเพื่อนำประชาชนออกจากเมืองมาราวี เผยว่า มีศพพลเรือนจำนวนหนึ่งในเมือง พร้อมวิจารณ์การที่กองทัพทำการโจมตีทางอากาศ รวมทั้งบ่อนทำลายความพยายามในการอพยพพลเรือน ระดับความเสียหายและประชาชนที่ได้รับผลกระทบขณะนี้ถือว่ารุนแรงมาก
ขณะเดียวกัน เกิดการปะทะดุเดือดอีกครั้งในวันอาทิตย์ หลังจากทหารราบระดมยิงต่อสู้กับนักรบมาอูเต และเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพยิงจรวดถล่มที่มั่นของกลุ่มกบฏอย่างน้อย 8 ลูก
โดรนตรวจการณ์บินเหนือเมืองมาราวีเก็บภาพพลเรือนจำนวนหนึ่งเดินเท้ามุ่งหน้าออกจากเมือง ทั้งนี้ ประชาชนนับหมื่นหนีออกจากเมืองตั้งแต่วันอังคาร (23) หลังจากกบฏมาอูเตออกอาละวาด ยึดโรงเรียน โรงพยาบาล และโบสถ์แห่งหนึ่ง แถมจับชาวคริสต์เป็นตัวประกัน และปล่อยนักโทษกว่าร้อยคนออกจากเรือนจำ 2 แห่ง
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเกือบจะในทันทีหลังจากที่กองกำลังความมั่นคงคว้าน้ำเหลวในการบุกจับ “อิสนิลอน ฮาปิลอน” ผู้นำกลุ่มอาบูเซยาฟที่ขึ้นชื่อเรื่องการจับตัวประกันเรียกค่าไถ่และการสังหารชาวต่างชาติ และรัฐบาลเชื่อว่า เป็นตัวแทนของไอเอสในฟิลิปปินส์
กองทัพมั่นใจว่า กลุ่มกบฏมาอูเตกำลังปกป้องฮาปิลอน พร้อมจำกัดวงสถานที่กบดานของผู้ก่อการร้ายรายนี้ให้แคบลง
ปีที่แล้ว มาอูเตสังหารประชาชน 14 คนด้วยระเบิดในมินดาเนา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ความสามารถในการรบของกลุ่มนี้สร้างความหนักใจให้กองทัพ ทั้งที่กองทัพมีกำลังพลและอาวุธพร้อมพรั่งกว่าก็ตาม
ทางการมะนิลายังกังวลมากขึ้น เมื่อพบนักรบต่างชาติร่วมต่อสู้กับมาอูเต ซึ่งรวมถึงนักรบจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย เนื่องจากบ่งชี้ว่า ปัญหากลุ่มกบฏมุสลิมหัวรุนแรงของฟิลิปปินส์อาจลุกลามกลายเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของภูมิภาคไปแล้ว


