เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - “สายการบินบริติชแอร์เวย์ส” ยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดทั่วโลกที่บินออกมาจากฮีทโธรว์และแก็ตวิคเมื่อวานนี้ (27 พ.ค) หลังเกิดปัญหาไฟฟ้าทำให้ระบบเช็กอิน-ปฏิบัติการล่ม ผู้โดยสารจำนวนหลายหมื่นติดอยู่ในสนามบินโดนไปทั่วหน้า 4 ชม.หรือ 8 ชม. บางส่วนถึงขั้นติดบนเครื่องบินที่รอบินออก เจ้าหน้าที่หายตัว ซีอีโอใหญ่ต้องออกมาขอโทษ พร้อมยืนยันไม่ได้เกิดจากถูกแฮกเกอร์โจมตี
NBC NEWS รายงานเมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) ว่า สายการบินบริติชแอร์เวย์สประกาศในช่วงค่ำวันเสาร์ (27 พ.ค.) ทางสายการบินได้ออกคำสั่งยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดจากท่าอากาศยานฮีทโธรว์และท่าอากาศยานแกตวิก หลังจากมีรายงานว่าผู้โดยสารจำนวนมากต้องอยู่ในแถวเข้าคิวยาวนานหลายชั่วโมง แถวลากยาวต่อออกไปนอกตัวอาคารเทอร์มินัลผู้โดยสาร และทำให้ซีอีโอของสายการบินอังกฤษต้องออกมาแถลงการณ์ขอโทษ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าระบบโทรศัพท์ของเครื่องบินและเว็บไซต์ล่มเช่นกัน และมีเที่ยวบินจำนวนมากจากอังกฤษนั้นประสบปัญหาล่าช้า หรือถูกยกเลิก
โดยในแถลงการณ์ของบริติชแอร์เวย์สกล่าวว่า “พวกเรากำลังทำงานอย่างหนักที่จะช่วยให้ผู้โดยสารที่มีกำหนดต้องขึ้นบินวันนี้จะสามารถบินได้กับไฟลต์ที่จะสามารถเดินทางออกไปได้ภายในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้”
ในแถลงการณ์ยังระบุต่อว่า “สำหรับผู้โดยสารที่ไม่สามารถขึ้นบินได้ ทางสายการบินจะคืนเงินให้”
บริติชแอร์เวย์สออกมาระบุว่า เที่ยวบินระยะยาวส่วนใหญ่ที่มีกำหนดลงจอดกรุงลอนดอนนั้น ทางสายการบินเชื่อว่า จะสามารถกลับมาได้ปกติภายในวันอาทิตย์ (28 พ.ค.) แต่อย่างไรก็ตาม ทางสายการบินอังกฤษเตือนว่า แต่อาจจะยังคงมีไฟลต์ดีเลย์เกิดขึ้นในช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้
ทั้งนี้ เดลีเมล์ สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า และในส่วนสนามบินแกตวิกนั้นเชื่อว่าทางบริติชแอร์เวย์สจะกลับมาให้บริการได้เกือบตามปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสายการบินประกาศว่า การให้บริการเที่ยวบินทั้งหมดใน 2 สนามบินจะสามารถเริ่มได้หลังจากเวลา 18.00 น. ไปแล้วในวันเสาร์ (27 พ.ค.) ซึ่งหมายความว่าผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางในช่วงวันหยุดนี้สำหรับการพักผ่อนต้องอยู่ในความโกลาหลหาที่พักโรงแรมค้างคืน หรือพยายามหาทางกลับบ้านไป
ในขณะที่ผู้โดยสารทั่วโลกของบริติชแอร์เวย์สได้รับการเตือนถึงปัญหาต่อเนื่องออกไปอีกหลายวัน หลังจากผู้โดยสารเหล่านั้นต้องยืนต่อแถวเข้าเช็กอินนานหลายชั่วโมงก่อนที่จะรู้ตัวว่าระบบไอทีของบริษัทเกิดล่ม
เลอาห์ โคเฮน (Leah Cohen) จากเมืองซาราโทกา (Saratoga) รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่เดินทางในยุโรป และได้รับผลกระทบกับเที่ยวบินล่าช้าได้ให้ข้อมูลกับ NBC NEWS ผ่านทางเฟซบุ๊กว่า “สายการบินบริติชแอร์เวย์สไม่ช่วยอะไรเลย” และกล่าวต่อว่า “พวกเขาพิมพ์กระดาษเล็กๆ และยื่นให้กับเรา ซึ่งนั่นเป็นหลักฐานสำหรับการรับเงินคืน แต่ยังคงมีผู้โดยสารจำนวนมากที่ยังคงติดค้าง และพลาดเที่ยวบินต่อเพื่อเดินทางกลับบ้าน หรือทำธุระที่บ้าน”
ในการให้ข้อมูลโคเฮนกล่าวต่อว่า “ปัญหาไม่ได้เกิดจากไอที” และกล่าวต่อว่า “แต่เป็นที่ไม่มีใครบอกอะไรพวกเราเลย ปล่อยให้พวกเราต้องหาทางเอาเองเพื่อจะรู้ว่าได้เกิดอะไรขึ้น แต่ไม่มีใครบอกความจริง”
ทั้งนี้ ผู้โดยสารชาวอเมริกันรายนี้มีแผนที่จะเดินทางบินจากฮังการีไปกรุงลอนดอนด้วยสายการบินบริติชแอร์เวย์ส แต่กลับต้องพบว่า เธอยังคงต้องติดค้างอยู่ในท่าอากาศยานบูดาเปสต์นานกว่า 8 ชม. ก่อนที่ทางสายการบินจะยอมประกาศอย่างเป็นทางการยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีผู้โดยสารอังกฤษจากเอสเซกซ์ (Essex) อีกรายออกมายืนยันว่า เจ้าหน้าที่สายการบินบริติชแอร์เวย์สไม่ปรากฏตัว เพื่อช่วยเหลือผู้โดยสารตกค้าง โดย ไร โดเฮอร์ตี (Rhi Doherty) ยืนยันว่า ไม่พบเจ้าหน้าที่สายการบินบริติชแอร์เวยส์ในขณะที่เธอและครอบครัวต้องติดค้างอยู่ภายในสนามบินฮีทโธรว์เพื่อจะร้องขอความช่วยเหลือ
โดยเธอกล่าวว่า “ทางเราติดอยู่นานร่วมกว่า 4 ชม. ยืนต่อแถวเพื่อจะเดินออก พวกเราถูกส่งไปยืนต่อแถวผิดที่”
และกล่าวต่อว่า “สายการบินได้ประกาศว่า ผู้โดยสารต้องใช้เวลา 3 ชม.ถึงจะสามารถออกจากสนามบินได้ และทางเราจะไม่สามารถได้กระเป๋าคืนในวันนี้ เพราะระบบกระเป๋าล่ม และทางสายการบินไม่สามารถกู้กลับคืนได้”
โดเฮอร์ตียังกล่าววิตกต่อไปว่า “ระบบทั้งหมดล่มนั้นแสดงถึงปัญหาด้านความปลอดภัย มีตำรวจอยู่ที่นี่แต่พวกเราต้องการความช่วยเหลือมากกว่านี้ พวกเขาควรปล่อยให้ครอบครัวเล็กยังมีเด็กเล็กออกไปก่อน เนื่องจากมีคนจำนวนมากและสภาพปัญหาอากาศร้อน แต่กลับไม่”
ทั้งนี้ มีภาพการติดค้างของผู้โดยสารลามไปถึงในส่วนที่อยู่บนเครื่องบินเพื่อรอบินออกจากท่าอากาศยาน โดยออลลิสัน ซีเวอร์ส (Allison Sievers) จากรัฐโคโลราโด ได้ถ่ายภาพพร้อมกล่าวผ่านโซเชีบลมีเดียว่า ต้องติดอยู่บนลานบินของสนามบินกรุงลอนดอนนานหลายชั่วโมง และทำให้พลาดเที่ยวบินต่อเพื่อเดินทางกลับบ้าน ในขณะที่มีอีกรายที่ประสบปัญหาเที่ยวบินล่าช้า ได้ถ่ายภาพบนเครื่อง พร้อมให้ข้อมูลว่า ทางสายการบินไม่ยอมอนุญาตให้ซื้ออาหารหรือเครื่องดื่ม
สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า อเล็กซ์ ครูซ (Alex Cruz) ซีอีโอบริษัทสายการบินบริติชแอร์เวย์สในภายหลังออกมาขอโทษ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น ผ่านทางโซเชียลมีเดียจากศูนย์ปฎิบัติการใกล้สนามบินฮีทโธรว์
“ทางเราขออภัยอย่างสูงต่อความไม่สะดวกเป็นอย่างมากที่ทำให้ผู้โดยสารของเราต้องได้รับความลำบาก ซึ่งทางเราเข้าใจดีถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับครอบครัวที่ต้องการออกเดินทางในช่วงวันหยุด” และกล่าวต่อว่า “ผมต้องขอขอบคุณต่อผู้โดยสารทุกคนที่ได้อดทนอย่างสูง ต่อในสิ่งที่พวกท่านทั้งหลายได้แสดงออกมาในวันนี้”
ในแถลงการณ์ ครูซชี้ว่า เชื่อว่าเหตุระบบล่มนั้นน่าจะเกิดมาจากปัญหาแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าขัดข้อง แต่อย่างไร ยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากการถูกโจมตีจากมือแฮกเกอร์อย่างแน่นอน หลังไม่พบหลักฐานการถูกบุกเข้าระบบความปลอดภัย
นอกจากนี้ ในการให้ข้อมูลเพิ่มเติม ครูซชี้ต่อว่า ผู้โดยสารอาจต้องยังคงประสบปัญหาในส่วนของระบบจองที่นั่งและศูนย์ติดต่อ เนื่องจากยังคงประสบปัญหาทางเทคนิคต่อเนื่อง
สำหรับในส่วนผู้โดยสารของสายการบินที่ไม่ต้องการเดินทาง ทางบริติชแอร์เวย์สได้เสนอที่จะคืนเงินให้เต็มจำนวน อย่างไรก็ตาม ไร โดเฮอร์ตีจากเอสเซกซ์ได้อ้างกับเดลีเมล์ สื่ออังกฤษ ถึงจำนวนค่าตอบแทนของทางบริษัทสายการบินว่า ทางสายการบินได้กำหนดเพดานจำนวนเงินให้กับผู้โดยสาร โดยทางเจ้าหน้าที่ได้อ้างจะจ่ายคืนในอัตราหนึ่งเท่านั้น ซึ่งทางโดเฮอร์ตีชี้ว่า หากว่า ทางผู้โดยสารไม่ได้รับกระเป๋าคืน ก็เท่ากับว่าผู้โดยสารต้องสูญเสียทั้งหมด
และในส่วนที่ยังคงต้องการเดินทางกับทางบริติชแอร์เวย์สต่อไป ทางบริษัทให้คำแนะนำให้ผู้โดยสารติดตามความคืบหน้าทางทวิตเตอร์ รวมไปถึงเว็บไซต์ของสายการบิน และเว็บไซต์ของท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์ และท่าอากาศยานนานาชาติแกตวิก
NBC NEWS ชี้ว่า ปัญหาระบบล่มในวันเสาร์ (27 พ.ค.) เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง 3 วันของอังกฤษตั้งแต่วันเสาร์ (27) มาจนถึงวันจันทร์ (29) และโรงเรียนเริ่มปิดเทอม