รอยเตอร์ - กลุ่มมือปืนจู่โจมกลุ่มชาวคริสต์คอปติก ซึ่งกำลังโดยสารรถบัสเดินทางไปยังอารามแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของอียิปต์ในวันศุกร์ (26 พ.ค.) คร่าชีวิต 26 ศพ และบาดเจ็บ 25 คน
พวกผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า กลุ่มชายสวมหน้ากากเปิดฉากยิงถล่ม หลังสกัดให้รถบัสคันหนึ่งและยานพาหนะอื่นๆ อีกหลายคัน ซึ่งบรรทุกชาวคริสเตียนจอดรถ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยแพร่ภาพรถบัสคันหนึ่งเต็มไปด้วยรูกระสุนและถูกไฟเผาไหม้เกรียม
ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับเหตุโจมตี ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้าเดือนรอมฎอน และเกิดขึ้นตามหลังเหตุระเบิดโบสถ์หลายต่อหลายแห่งเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ที่พวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างความรับผิดชอบ
สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีฟัตตาห์ อัล-ซิซี เรียกประชุมฉุกเฉินเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง และคณะรัฐมนตรีประกาศกร้าวว่าพวกมือโจมตีจะไม่บรรลุเป้าหมายในประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกแยกแห่งนี้
พวกผู้นำมุสลิมประณามเหตุเข่นฆ่าดังกล่าว โดยผู้นำสูงสุดทางศาสนา (Grand Imam) แห่งอัลอัซฮัร (al-Azhar) ศูนย์การเรียนรู้อิสลามิก อายุกว่า 1,000 ปีของอียีปต์ บอกว่าเหตุโจมตีมีเจตนาก่อความไร้เสถียรภาพแก่ประเทศ
“ข้าพเจ้าเรียกร้องชาวอียิปต์จงสามัคคีในการเผชิญหน้ากับพวกก่อการร้ายที่ป่าเถื่อนเหล่านี้” อาห์เมด อัล-ตาเยบ กล่าวระหว่างเยือนเยอรมนี ส่วน เชาว์กี อัลลัม ผู้ตัดสินชี้ขาดสูงสุดทางศาสนาอิสลาม (Grand Mufti) แห่งอียิปต์ ประณามมือโจมตีว่าเป็นพวกทรยศ
เหตุโจมตีเกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่งซึ่งมุ่งหน้าสู่อารามแห่งธรรมสักขีเซนต์ซามูเอล ในจังหวัดมินยา ซึ่งเป็นถิ่นฐานของชนกลุ่มน้อยชาวคริสต์ ขณะที่โฆษกกระทรวงมหาดไทยเผยว่ากลุ่มมือปืนไม่ทราบฝ่ายใช้รถโฟร์วีล 3 คันเป็นยานพาหนะ โดยเวลานี้กองกำลังความมั่นคงกำลังไล่ล่าคนร้าย ด้วยมีการตั้งจุดตรวจหลายสืบแห่งและออกลาดตระเวนไปตามถนน
ชาวคริสต์คอปติ คิดเป็นร้อยละ 10 จากประชากรทั้งหมด 92 ล้านคนของอียิปต์ พวกเขาถูกตามประหัตประหารมาช้านาน แต่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเหตุโจมตีนองเลือดที่มีพวกเขาเป็นเป้าหมายเพิ่มขึ้นอย่างน่าสังเกต โดยนับตั้งแต่เดือนธันวาคม มีชาวคริสต์คอปติ เสียชีวิตแล้วราว 70 คน จากเหตุระเบิดถล่มโบสถ์ตามเมืองต่างๆ ทั้งกรุงไคโร, อเล็กซานเดรียและตันตา ซึ่งพวกไอเอสอ้างความรับผิดชอบ
ทั้งนี้ ชาวคริสต์คอปติกหวั่นเกรงว่าพวกเขาจะเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกับพี่น้องในอิรักและซีเรีย ดินแดนที่ชุมชนชาวคริสต์ถูกทำลายล้างจากสงครามและโดยพวกไอเอสตามประหัตประหาร
พวกเขาสนับสนุนประธานาธิบดีฟัตตาห์ อัล-ซิซี ผู้ที่ประกาศปราบปรามอิสลามิสต์หัวรุนแรงและปกป้องคริสเตียน โดยเขาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 เดือนตามหลังเหตุโจมตีโบสถ์หนล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน อย่างไรก็ตามชาวคริสต์จำนวนมากรู้สึกว่ารัฐบาลไม่พยายามมากพอสำหรับปกป้องชะตากรรมของพวกเขาหรือไม่สามารถปกป้องพวกเขาจากพวกคนคลั่ง
