เอเจนซีส์ - คณะผู้แทนของโอเปก ระบุในวันพฤหัสบดี (25 พ.ค.) ว่าได้ตัดสินใจที่จะขยายเวลาการลดกำลังผลิตน้ำมันไปอีก 9 เดือน จนถึงมีนาคม 2018 เพื่อจัดการกับปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ ซึ่งทำให้ชาติสมาชิกมีรายได้ลดลงอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
การลดกำลังผลิตครั้งนี้ดูเหมือนจะมีการร่วมมือกันอีกครั้งกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปกหลายราย นำขบวนโดยรัสเซียที่มีการลดกำลังผลิตแบบเดียวกับองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มาตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้
การลดกำลังผลิตของโอเปกนั้นช่วยทำให้ราคาน้ำมันขยับตัวขึ้นอยู่เหนือระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีนี้ ทำให้ชาติสมาชิกโอเปกมีรายได้ดีขึ้น ชาติสมาชิกเหล่านี้มีหลายรายที่ต้องพึ่งพารายได้หลักจากพลังงาน และต้องผลาญเงินทุนสำรองต่างชาติเพื่ออุดรูรั่วด้านงบประมาณในช่วงที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันที่ตกต่ำในช่วงก่อนหน้านี้ บีบให้รัสเซียและซาอุดีอาระเบียต้องรัดเข็มขัด ทั้งยังทำให้เกิดความวุ่นวายในประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายราย เช่น เวเนซุเอลา และไนจีเรีย
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โอเปกได้เห็นพ้องกับการลดกำลังผลิตเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ ทั้งยังเป็นการร่วมมือกันครั้งแรกในรอบ 15 ปีกับบรรดาชาติผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปกที่นำโดยรัสเซีย ทั้งสองฝ่ายได้ตัดสินใจที่จะลดกำลังการผลิตประมาณ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017
แม้ว่าจะมีการลดกำลังผลิต โอเปกก็ยังคงส่งออกน้ำมันได้อย่างมีเสถียรภาพในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 เนื่องจากชาติสมาชิกได้ดึงเอาน้ำมันในสต็อกออกมาขาย
ความเคลื่อนไหวที่ผ่านมายังไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อสต็อกน้ำมันทั่วโลก บีบให้โอเปกต้องเสนอเรื่องการขยายเวลาลดกำลังผลิตอีก 6 เดือน แต่ในเวลาต่อมาก็เสนอให้เพิ่มเป็น 9 เดือน ส่วนรัสเซียนั้นเสนอให้ลดการผลิตอีก 12 เดือนเลยด้วยซ้ำ
“มีการเสนอจากหลายชาติสมาชิกให้ยืดเวลาไปอีก แต่มันไม่จำเป็นจะต้องทำขนาดนั้น” คาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวก่อนการประชุม
รัฐมนตรีซาอุฯ ยังบอกด้วยว่า ชาติสมาชิกอย่างไนจีเรียและลิเบียยังคงได้รับการยกเว้นเรื่องลดกำลังผลิต เนื่องจากมีเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ ส่วนการส่งออกน้ำมันของซาอุฯ จะลดลงอย่างมาก นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป เพื่อเร่งการปรับสมดุลตลาด