รอยเตอร์ - ตำรวจอินโดนีเซียเชื่อกลุ่มคนร้ายที่กดระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีตำรวจ 3 นายบริเวณสถานีขนส่งในกรุงจาการ์ตาเมื่อคืนวันพุธ (24 พ.ค.) มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ขณะที่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ออกมาวิงวอนให้ประชาชนมีสติและอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป
เหตุระเบิดซึ่งเกิดขึ้น 2 ครั้งในเวลาห่างกันไม่ถึง 5 นาทีทำให้มีผู้เสียชีวิตไปทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วยมือระเบิด 2 คน และตำรวจ 3 นาย นอกจากนี้ยังมีตำรวจอีก 6 นาย และพลเรือน 6 คนที่ได้รับบาดเจ็บ โดยนับเป็นเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นในแดนอิเหนา หลังจากเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ปี 2016 ที่กลุ่มติดอาวุธได้ลงมือกราดยิงและกดระเบิดฆ่าตัวตายใจกลางย่านธุรกิจในกรุงจาการ์ตาจนมีผู้เสียชีวิต 8 คน รวมคนร้าย 4 คน
“เราทุกคนจะต้องมีสติและใจเย็น... เพราะเรามุสลิมกำลังจะเข้าสู่เดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนแห่งการถือศีลอด” ประธานาธิบดีวิโดโดระบุในคำแถลงวันนี้ (25 พ.ค.)
อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกกำลังเผชิญภัยคุกคามจากแนวคิดอิสลามิสต์สุดโต่ง ส่วนหนึ่งเกิดจากกลุ่มนักรบรุ่นใหม่ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากไอเอส
อาวี เซตโยโน โฆษกตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ระบุว่า “มีความเป็นไปได้สูงมาก” ที่กลุ่มไอเอสจะอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อวานนี้ (24)
“เราพบความเชื่อมโยง แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นฝีมือเครือข่ายก่อการร้ายข้ามชาติหรือไม่”
เซตโยโน ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านั้นว่า ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนว่ามือระเบิดกลุ่มนี้รับใบสั่งโดยตรงมาจากไอเอสในซีเรียหรือที่อื่นๆ หรือไม่
ล่าสุด ตำรวจอินโดนีเซียยังไม่เปิดเผยชื่อของมือระเบิดฆ่าตัวตายทั้ง 2 คน แต่แหล่งข่าวระบุว่า พวกเขาอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม ญามาอะห์ อันซอรุดเดาละห์ (Jamaah Ansharut Daulah) ซึ่งเป็นองค์กรร่มที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีก่อการร้าย และคาดว่ามีชาวอิเหนาที่ฝักใฝ่ไอเอสเข้าร่วมเป็นสมาชิกหลายร้อยคน
ตำรวจเผยด้วยว่า อาวุธที่คนร้ายใช้คือ “ระเบิดหม้อความดัน” ซึ่งคล้ายกับเหตุโจมตีที่เมืองบันดุงเมื่อเดือน ก.พ. ซึ่งครั้งนั้นตำรวจเชื่อว่าคนร้ายที่ถูกวิสามัญฯ ก็น่าจะมาจากเครือข่ายที่สนับสนุนไอเอสเช่นกัน
อินโดนีเซียยังเผชิญเหตุโจมตีย่อยๆ โดยฝีมือกลุ่มสนับสนุนไอเอสมาแล้วหลายครั้งในรอบ 17 เดือนที่ผ่านมา
เซตโยโนตั้งข้อสังเกตว่า คนร้ายกลุ่มนี้อาจได้แรงบันดาลใจจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่เมืองแมนเชสเตอร์ในอังกฤษ หรือการลุกฮือของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ที่เมืองมาราวีในฟิลิปปินส์ ซึ่งทำให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ต้องประกาศใช้กฎอัยการศึก
“หลังเกิดเหตุระเบิดที่แมนเชสเตอร์ และเหตุการณ์ที่เมืองมาราวีในฟิลิปปินส์ กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้อาจรู้สึกฮึกเหิมและอยากลงมือบ้าง” เซตโยโน ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีวัน
รัฐบาลอินโดนีเซียประเมินว่า ขณะนี้มีชาวอิเหนาราว 400 คนร่วมสู้รบอยู่กับไอเอสในซีเรีย และคนเหล่านี้ถือเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อบ้านเกิด