xs
xsm
sm
md
lg

อังกฤษเตือนภัย “ขั้นสูงสุด” หลังระเบิดที่แมนเชสเตอร์ ส่งทหาร-ตำรวจคุ้มกันสถานที่สำคัญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ซัลมาน อาเบดี ชาวอังกฤษเชื้อสายลิเบียวัย 22 ปี ซึ่งกดระเบิดฆ่าตัวตายที่ แมนเชสเตอร์ อารีนา เมื่อค่ำวันที่ 22 พ.ค.
เอเอฟพี - รัฐบาลอังกฤษยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายขั้นสูงสุด และเตรียมส่งทหารลงพื้นที่คุ้มกันสถานที่สำคัญๆ ทั่วประเทศในวันนี้ (24 พ.ค.) หลังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายกลางคอนเสิร์ตในเมืองแมนเชสเตอร์จนมีผู้เสียชีวิต 22 คน

ระหว่างแถลงข่าวที่สำนักงานบนถนนดาวนิงเมื่อค่ำวานนี้ (23) นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษยอมรับว่า มีความเป็นไปได้สูงที่พวกอิสลามิสต์หัวรุนแรงจะลงมือโจมตีอังกฤษอีก และอาจมีกลุ่มบุคคลหลายคนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่แมนเชสเตอร์

เมย์ ระบุด้วยว่า รัฐบาลได้ยกระดับการเตือนภัยจาก “ร้ายแรง” (severe) ไปสู่ขั้น “วิกฤต” (critical) ตามคำแนะนำของหน่วยข่าวกรอง และอนุมัติแผนปฏิบัติการให้ฝ่ายทหารสนธิกำลังช่วยเหลือตำรวจในยามฉุกเฉิน

คำแถลงจากผู้นำอังกฤษมีขึ้น หลังจากตำรวจออกมาเปิดเผยว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายที่โจมตีงานคอนเสิร์ตนักร้องสาวชาวอเมริกัน อเรียนา แกรนเด เมื่อค่ำวันจันทร์ (22) คือ ซัลมาน อาเบดี ชาวอังกฤษเชื้อสายลิเบียวัย 22 ปี

กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุสังหารหมู่ครั้งนี้ ท่ามกลางเสียงประณามจากผู้นำทั่วโลก รวมถึงประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งตราหน้าพวกที่ใช้ความรุนแรงเหล่านี้ว่าเป็น “พวกขี้แพ้นิสัยเลว” (evil losers)

ตำรวจแถลงว่า ในเบื้องต้นทหารจะปฏิบัติภารกิจคุ้มกันเฉพาะจุด แต่อาจถูกส่งไปลาดตระเวนตามสถานีขนส่ง ลานคอนเสิร์ต หรือสนามแข่งขันกีฬาต่างๆ ด้วย

แผนรับมือก่อการร้ายซึ่งมีชื่อรหัสว่า “ปฏิบัติการเทมเพอเรอร์” (Operation Temperer) นี้ถูกเปิดเผยหลังเกิดเหตุวินาศกรรมปารีสเมื่อเดือน พ.ย.ปี 2015 และเชื่อว่าจะเปิดทางให้มีการระดมทหารได้ถึง 5,000 นาย

สื่ออังกฤษระบุว่า อาเบดี เกิดที่เมืองแมนเชนเตอร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ โดยบิดามารดาเป็นชาวลิเบียที่อพยพหนีการกดขี่ของระบอบ มูอัมมาร์ กัดดาฟี

ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักที่เชื่อว่า อาเบดี เคยอาศัยอยู่ และยังจับกุมชายวัย 23 ปีคนหนึ่งที่อาจมีส่วนเชื่อมโยงกับการก่อเหตุ

รายงานระบุว่า อาเบดี เคยเป็นนักศึกษาวิชาธุรกิจ แต่ได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย และผันตัวไปรับแนวคิดอิสลามหัวรุนแรง

หนังสือพิมพ์เดอะซันฉบับวันนี้ (24) ได้ลงภาพถ่ายเซลฟีของ ด.ญ.โรส รุสซอส วัย 8 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตในเหตุระเบิดที่แมนเชสเตอร์ คู่กับภาพถ่ายของอาเบดี พร้อมคำบรรยายเปรียบเทียบว่า “บริสุทธิ์” กับ “เลวทราม”

เหตุวินาศกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์เศษๆ ก่อนที่อังกฤษจะมีการเลือกตั้งทั่วไป และทำให้พรรคการเมืองกระแสหลักต้องระงับการหาเสียงชั่วคราว

ไอเอสแถลงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า “ทหารของรัฐคอลีฟะห์คนหนึ่งได้นำระเบิดไปวางไว้ท่ามกลางฝูงชน” พร้อมขู่ว่าการโจมตีชาติตะวันตกจะไม่หยุดเพียงเท่านี้

แมนเชสเตอร์ อารีนา เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่มขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของยุโรป สามารถจุผู้ชมได้มากถึง 21,000 คน โดยเหตุระเบิดฆ่าตัวตายนั้นเกิดขึ้นในขณะที่คอนเสิร์ตของ แกรนเด กำลังจบลงพอดี

ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนเล่าวินาทีระทึก เมื่อชายคนหนึ่งกดระเบิดฆ่าตัวตายบริเวณประตูทางออกจุดหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ อารีนา เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ขณะที่กลุ่มแฟนเพลงวัยรุ่นกำลังทยอยเดินออกมาหาพ่อแม่ผู้ปกครองที่รอรับอยู่ด้านนอก

ผู้บาดเจ็บ 59 รายถูกนำส่งโรงพยาบาล หลายคนอาการสาหัส และมีอยู่ 12 รายที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี

เหตุการณ์นี้นับเป็นเหตุโจมตีครั้งนองเลือดที่สุดของอังกฤษนับตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2005 โดยคราวนั้นมือระเบิดฆ่าตัวตาย 4 คน ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากอัลกออิดะห์ ได้ลงมือโจมตีระบบขนส่งมวลชนของลอนดอนระหว่างชั่วโมงเร่งด่วน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 52 ศพ และบาดเจ็บกว่า 700 คน

โศกนาฏกรรมครั้งนี้ยังปลุกภาพความทรงจำจากเหตุโจมตีโรงคอนเสิร์ตบาตากล็องในกรุงปารีสเมื่อเดือน พ.ย.ปี 2015 ซึ่งกลุ่มคนร้ายที่มีทั้งปืนและเข็มขัดติดระเบิดได้บุกเข้าไปสังหารผู้บริสุทธิ์ถึง 90 ราย

ก่อนหน้านี้ ไอเอสเคยอ้างออกมาอ้างผลงานกรณีผู้ก่อการร้ายขับรถพุ่งชนคนบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ และใช้มีดแทงตำรวจรัฐสภาจนเสียชีวิต 1 นาย เมื่อเดือน มี.ค. แต่ตำรวจอังกฤษยังไม่ปักใจเชื่อ

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ทรงมีพระราชดำรัสประณามเหตุโจมตีที่แมนเชสเตอร์ว่าเป็น “การกระทำอันป่าเถื่อน” และทรงยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 1 นาทีที่พระราชวังบักกิงแฮม




กำลังโหลดความคิดเห็น