เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ ออกเดินทางไปเยือนรัสเซียในวันจันทร์ (22 พ.ค.) เพื่อพบกับวลาดิมีร์ ปูติน ฮีโร่คนโปรด คุยเรื่องอาวุธ และตอกย้ำนโยบายการต่างประเทศในการตีจากอเมริกามหามิตรดั้งเดิมชัดเจนขึ้น
การเยือนเป็นเวลา 5 วันคราวนี้น่าจะกระชับความสัมพันธ์ที่ดีวันดีคืนระหว่างฟิลิปปินส์กับรัสเซีย นับจากที่ดูเตอร์เต เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแดนตากาล็อกเมื่อปีที่แล้ว และเริ่มล่าถอยจากอเมริกา ที่ตัวเขากล่าวหาว่า มือถือสากปากถือศีล และข่มเหงรังแกชาติเล็ก
ผู้นำมะนิลามีกำหนดพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน “วีรบุรุษคนโปรด” ที่ชอบปืนและล่าสัตว์เหมือนกันในวันพฤหัสบดี (25)
เมื่อวันศุกร์ (19) ที่ผ่านมา ดูเตอร์เตเปรยว่า หนึ่งในเป้าหมายสำคัญสำหรับการเยือนครั้งนี้คือเพื่อจัดซื้อระเบิดนำวิถีที่มีความแม่นยำสูงของรัสเซีย มาใช้ปราบปรามนักรบอิสลามิสต์ทางใต้ของประเทศ
การหันไปพึ่งพาอาวุธจากมอสโกมีขึ้นขณะที่ดูเตอร์เตเดินหน้าลดระดับความร่วมมือกับอเมริกา อดีตผู้ปกครองในยุคอาณานิคม รวมทั้งยังเป็นพันธมิตรและผู้ปกป้องฟิลิปปินส์ที่สำคัญที่สุดมายาวนานนับสิบปี
ผู้นำแดนตากาล็อกสั่งลดจำนวนและขอบเขตการซ้อมรบร่วมประจำปีกับอเมริกา ห้ามกองกำลังฟิลิปปินส์ร่วมตรวจการณ์กับนาวีสหรัฐฯในทะเลจีนใต้ รวมทั้งเรียกร้องให้อเมริกาถอนทหารที่มีอยู่ไม่มากนักออกจากฟิลิปปินส์
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้มีขึ้นขณะที่จีนท้าทายอเมริกาออกนอกหน้ามากขึ้นด้วยการขยายกิจกรรมและอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้อย่างก้าวร้าว
แม้การอ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดของปักกิ่งคาบเกี่ยวน่านน้ำที่ฟิลิปปินส์เชื่อว่า เป็นดินแดนของตน แต่ดูเตอร์เตก็ตัดสินใจแน่วแน่ในการย้ายแกนนโยบายการต่างประเทศออกจากอเมริกาและหันไปคบค้ากับจีนและรัสเซียแทน
ส่วนหนึ่งเนื่องจากปักกิ่งและมอสโกสนับสนุนหรืออย่างน้อยก็ไม่วิจารณ์สงครามต่อต้านยาเสพติดของดูเตอร์เต ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน และมีเสียงเตือนจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่า ผู้นำฟิลิปปินส์อาจกำลังก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
ตรงข้ามกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่วิจารณ์สงครามกวาดล้างยาเสพติดของแดนตากาล็อกอย่างหนัก และถูกดูเตอร์เตตอกกลับเสียๆ หายๆ
ทั้งนี้ ระหว่างการเยือนจีนอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว ดูเตอร์เตประกาศว่า ฟิลิปปินส์ “แยกขาด” จากอเมริกาแล้ว ขณะเดียวกัน ผู้นำมะนิลาที่ประกาศตัวว่า เป็นนักการเมืองสังคมนิยม พบกับปูตินครั้งแรกในการประชุมรอบนอกของซัมมิตเอเชีย-แปซิฟิกที่เปรูเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ครั้งนั้น ดูเตอร์เตบอกกับประมุขเครมลินว่า เขาได้รู้จักโลกตะวันตกมานานซึ่งก็ดีอยู่ จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ที่เขาพบว่า ประเทศเหล่านั้นจำนวนมากกำลังข่มเหงชาติเล็กๆ
นับจากนั้น กองทัพเรือรัสเซียส่งสองกองเรือล่องเยือนมะนิลา และดูเตอร์เตกล่าวขณะเยี่ยมชมเรือพิฆาตติดตั้งจรวดนำวิถี “วาร์ยัค” ที่จอดเทียบท่ามะนิลาเมื่อเดือนที่แล้วว่า “ถ้ามีรัสเซีย ผมก็ไม่กลัวอะไรอีกต่อไป”
ฟิลิปปินส์และรัสเซียสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกันมา 41 ปี แต่ความสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน ปีที่ผ่านมามีการค้าระหว่างกันคิดเป็นมูลค่าเพียง 226 ล้านดอลลาร์ เทียบกับการค้าฟิลิปปินส์-อเมริกา 18,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนหนึ่งเนื่องจากก่อนหน้านี้มะนิลายังเป็นพันธมิตรที่จงรักภักดีต่อวอชิงตัน
กระนั้น มาเรีย คลีโอฟี นาติวิแดด ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวระหว่างบรรยายสรุปการเดินทางเยือนรัสเซียของดูเตอร์เตต่อผู้สื่อข่าวว่า การเยือนครั้งนี้จะเป็นการส่งข้อความที่ชัดเจนว่า ฟิลิปปินส์ต้องการพันธมิตรใหม่ๆ