รอยเตอร์ - รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ยืนยันวันนี้ (22 พ.ค.) ว่าการหารือระหว่างผู้นำจีนและฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นไปอย่างอบอุ่นฉันมิตรและตรงไปตรงมา โดยไม่มีการข่มขู่ใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต อ้างว่าตนถูกผู้นำจีนขู่ว่าจะเกิด “สงคราม” หากฟิลิปปินส์เข้าไปขุดเจาะน้ำมันในทะเลจีนใต้
อลัน ปีเตอร์ กาเยตาโน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ปฏิเสธที่จะเผยรายละเอียดของการหารือระหว่าง ดูเตอร์เต และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กรุงปักกิ่ง แต่ยืนยันว่าผู้นำทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และได้พูดคุยกันอย่างเปิดใจเพื่อหาทางป้องกันมิให้เกิดการเผชิญหน้าทางทะเล
“บทสนทนามีความตรงไปตรงมา ทั้งสองฝ่ายเคารพซึ่งกันและกัน และเชื่อมั่นในกันและกัน” กาเยตาโน บอกกับผู้สื่อข่าว
“ไม่มีบริบทใดๆ ที่เป็นการข่มขู่คุกคาม หรือขู่ว่าเราจะต้องทำสงครามกัน บริบทก็คือว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค และหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง”
ดูเตอร์เต วัย 71 ปี ออกมาพูดผ่านสื่อโทรทัศน์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (19) ว่า ตนได้รับการเตือนจาก สี จิ้นผิง ว่ามีโอกาสจะเกิด “สงคราม” หากมะนิลาขืนเข้าไปสำรวจหาแหล่งน้ำมันในน่านน้ำพิพาท
“ผมพูดต่อหน้าพวกเขาเลยว่า พื้นที่ตรงนั้นเป็นของเรา และเราตั้งใจจะเข้าไปสำรวจหาน้ำมันที่นั่น” ดูเตอร์เตกล่าว
“พวกเขาก็ตอบผมมาว่า เราเพื่อนกันนะ เราไม่อยากทะเลาะกับคุณ เราอยากจะรักษาความสัมพันธ์ที่อบอุ่นอย่างนี้ไว้ แต่ถ้าคุณจะดันเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เราคงต้องทำสงครามกัน”
รัฐบาลจีนได้ออกมาแสดงความเห็นในวันนี้ (22) โดยไม่พาดพิงถึงคำพูดของดูเตอร์เตโดยตรง แต่บอกว่า “จีนพร้อมที่จะร่วมมือกับฟิลิปปินส์ในการแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ ด้วยการพูดคุยฉันมิตร”
หัว ชุนอิง โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศจีน บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า จีนมีความปรารถนาที่จะร่วมมือกับมะนิลาในด้านอื่นๆ เพื่อให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีเดินหน้าต่อไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเสถียรภาพในภูมิภาคอีกด้วย”
ดูเตอร์เต ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างรุนแรงว่าแสดงจุดยืน “ขี้แพ้” ต่อจีน และไม่คิดจะนำคำพิพากษาของศาลอนุญาโตตุลาการถาวร (Permanent Court of Arbitration) ซึ่งยกประโยชน์ให้แก่ฟิลิปปินส์มาบีบคั้นจีนให้มากกว่านี้
ศาลอนุญาโตตุลาการถาวรที่กรุงเฮกได้มีคำพิพากษาเมื่อเดือน ก.ค.ปีที่แล้วว่า จีนไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายที่จะนำแผนที่เส้นประ 9 เส้น (nine-dash line) มาอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ หรืออ้างความชอบธรรมในการถมทะเลสร้างเกาะเทียมภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังรับรองว่าฟิลิปปินส์มีสิทธิ์ตามอำนาจอธิปไตยที่จะเข้าไปสำรวจและใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติภายในเขต EEZ ของตน ซึ่งรวมถึงพื้นที่ รีด แบงก์ (Reed Bank)
เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน ต่างก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำบางส่วนในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ และยังถูกใช้เป็นเครื่องมือโหมกระแสชาตินิยมในบางประเทศ
เมื่อวันเสาร์ (20) ผู้พิพากษาศาลสูงสุดฟิลิปปินส์เรียกร้องให้รัฐบาลฟ้องศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศอีกครั้งเรื่องที่จีนข่มขู่มะนิลา และให้ร้องเรียนต่อองค์การสหประชาชาติด้วย
อันโตนิโอ คาร์ปิโอ ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลสูงสุด เตือนว่า หากรัฐบาลไม่ทำเช่นนี้ก็เท่ากับว่า ดูเตอร์เต ตั้งใจ “ขายชาติ” และยอมให้ฟิลิปปินส์สูญเสียอธิปไตย เพื่อแลกกับเงินกู้และเม็ดเงินลงทุนที่จะนำมาใช้ในโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 180,000 ล้านดอลลาร์ของเขาเอง
เออร์เนสโต อาเบลลา โฆษกประธานาธิบดี ยืนยันวันนี้ (22) ว่า รัฐบาล “มีจุดยืนชัดเจนว่า เราจะไม่ยุติการอ้างอธิปไตย และสิทธิตามอำนาจอธิปไตยของเรา”