รอยเตอร์ - หนังสือพิมพ์โกลบัลไทม์สซึ่งเป็นสื่อทรงอิทธิพลของจีนลงบทความชื่นชมหน่วยต่อต้านการจารกรรมว่าปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ปักกิ่งได้สังหารหรือจำคุกผู้ที่แฉข้อมูลลับให้แก่สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) มากถึง 20 ราย ซึ่งทำให้ศักยภาพของสหรัฐฯ ในการสืบหาข่าวกรองในแดนมังกรถูกบั่นทอนลงไปมาก
นิวยอร์กไทม์สรายงานเมื่อวันเสาร์ (20 พ.ค.) ว่า ทางการจีนได้สังหารบุคคลอย่างน้อย 12 คนที่คอยส่งข้อมูลลับให้แก่ซีไอเอในช่วงปี 2010-2012 จนส่งผลให้เครือข่ายสายลับที่สหรัฐฯ ใช้เวลาหลายปีในการสร้าง “พังไม่เป็นท่า”
โกลบัลไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อในเครือเดียวกับหนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลี ระบุในบทบรรณาธิการฉบับภาษาจีนและอังกฤษวันนี้ (22) ว่า หากสิ่งที่นิวยอร์กไทม์สรายงานเป็นความจริง ก็ถือว่าเป็น "ชัยชนะ" สำหรับจีน
“ถ้ารายงานดังกล่าวเป็นความจริง เราก็ขอปรบมือให้แก่หน่วยต่อต้านจารกรรมของจีน เพราะไม่เพียงเครือข่ายสายลับของซีไอเอจะถูกทำลายไปเท่านั้น แต่วอชิงตันยังไม่รู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น หรือเกิดความผิดพลาดที่ตรงไหน” โกลบัลไทม์ส ระบุ
“เราจะบอกว่ามันเป็นชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จก็ว่าได้ และหากซีไอเอพยายามที่จะสร้างเครือข่ายสายลับขึ้นมาในจีนอีกครั้ง พวกเขาก็อาจต้องเจอผลลัพธ์แบบเดียวกัน”
อย่างไรก็ดี โกลบัลไทม์สซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสื่อชาตินิยมจัดระบุว่า ข้อมูลบางส่วนของนิวยอร์กไทม์ส “ผิดพลาด” อย่างชัดเจน
“เรื่องที่ว่าแหล่งข่าวคนหนึ่งถูกยิงตายกลางสนามหน้าสำนักงานของรัฐบาลจีนเป็นเรื่องแต่งชัดๆ และดูเหมือนจินตนาการของชาวอเมริกันซึ่งมีพื้นฐานมาจากคตินิยมของพวกเขาเอง”
รัฐบาลปักกิ่งยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับรายงานของนิวยอร์กไทม์ส
กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ (Ministry of State Security) ซึ่งกำกับดูแลงานต่อต้านการจารกรรมไม่มีทั้งเบอร์โทรศัพท์และเว็บไซต์ให้ติดต่อได้ ซึ่งต่างจากกระทรวงอื่นๆ ของจีน
แม้เว็บไซต์นิวยอร์กไทม์สจะถูกทางการจีนบล็อกเช่นเดียวกับสื่อกระแสหลักของตะวันตกอีกหลายสำนัก ทว่ารายงานชิ้นนี้ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และถูกสื่อจีนนำมาตีแผ่ โดยเฉพาะสำนักข่าวออนไลน์
ผู้ใช้ไมโครบล็อกกิง “เวยปั๋ว” หรือทวิตเตอร์ภาคจีนได้เข้าไปโพสต์ความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้หลายพันข้อความ โดยส่วนใหญ่แสดงความสะใจที่เครือข่ายสายลับอเมริกันถูกทำลาย
“สายลับทรยศพวกนี้ต้องโดนลงโทษให้หนัก เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติเรา” ผู้ใช้เวยปั๋วคนหนึ่ง ระบุ