เอพี/เอเจนซีส์ - นักปีนเขา 3 รายถูกยืนยันเสียชีวิต อีก 1 รายสูญหายระหว่างปืนใกล้ยอดเขาเอเวอเรสต์ในสุดสัปดาห์ สุดอึ้ง นักปืนเขาอังกฤษยืนยัน “ฮิลลารีสเตป” (Hillary step) จุดที่ยากที่สุดก่อนพิชิตยอดเอเวอเรสต์หายไป เชื่อพังทลายในช่วงเหตุแผ่นดินไหวเนปาลปี 2015
เอพีรายงานเมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่เนปาลและหน่วยงานจัดปีนเทือกเขาเอเวอเรสต์ยืนยันวันนี้ (22 พ.ค.) ว่า ในช่วงสุดสัปดาห์มีผู้เสียชีวิต 3 คน และสูญหายอีก 1 คน ทั้งนี้ พบว่านักปีนเขาอเมริกันเสียชีวิตใกล้ยอดเขา ในขณะที่นักปีนเขาอินเดียสูญหายในขณะที่กำลังปืนกลับลงมาหลังจากขึ้นสู่ยอดสูงสุดแล้ว
โรแลนด์ เยียร์วูด (Roland Yearwood) นักไต่เขาอเมริกันวัย 50 ปี จากเมืองจอร์เจียนา (Georgiana) รัฐแอละแบมา ถูกพบเสียชีวิตเมื่อวานนี้ (21) แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีการเปิดเผยในรายละเอียด มูรารี ชาร์มา (Murari Sharma) จากบริษัทจัดการปืนเขา เอเวอเรสต์ ปาริวาร์ เอ็กซ์พีเดีย เอเจนซี (Everest Parivar Expedition agency) ตั้งอยู่ในกาฐมาณฑุ ให้ความเห็น
ในขณะที่ราวี กูมาร์ (Ravi Kumar) นักไต่เขาอินเดียอีกคน เกิดล้มป่วยในระหว่างไต่ลงมาจากยอดเขาเอเวอเรสต์ในวันเสาร์ (20) แต่พบว่าเขาเสียชีวิตก่อนที่จะเดินทางมาถึงแคมป์ที่ใกล้ที่สุด ส่วนเชอร์ปา ผู้นำทางของกุมาร์สามารถเดินทางมาถึงได้สำเร็จ ธูปเดน เชอร์ปา (Thupden Sherpa) จากบริษัท อรุนเทร็กส์ แอนด์ เอ็กซ์เพดิชัน (Arun Treks and Expedition) กล่าว
เอพีรายงานว่า เชอร์ปาผู้นำทางเกิดป่วย แต่ยังสามารถนำตัวเองกลับมาถึงยังแคมป์เซาท์ โคล (South Col) ระดับความสูง 26,247 ฟุต เชอร์ปาให้ข้อมูล และให้ความเห็นต่อว่า ผู้นำทางมีอาการป่วยด้วยโรคหิมะกัด และต้องได้รับออกซิเจนช่วยเหลือ
ในการปีนเขาของนักไต่เขาอินเดีย กุมาร์และเชอร์ปาประสบความสำเร็จสามารถขึ้นสู่ยอดระดับความสูง 29,035 ฟุตในเวลา 13.30 น.ของวันเสาร์ (20) ซึ่งในทางการไต่เขาเวอเรสต์ถือว่าล่าช้ามาก และไม่มีนักไต่เขามากนักในเวลานั้นเมื่อคนทั้งคู่ไต่กลับลงมา เชอร์ปาแถลง
และมีรายงานว่า กู้ภัยเชอร์ปา 3 รายถูกนำตัวลงมาทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังแคมป์หมายเลข 2 จากจุดที่พวกเขาได้ปีนขึ้นไปในปฏิบัติการค้นหากุมาร์
ทั้งนี้ นอกจากเยียร์วูดแล้ว พบว่านักไต่เขาที่เสียชีวิตรายที่ 2 คือนักไต่เขาชาวสโลวักวัย 50 ปี Vladimir Strba พบว่า ชายผู้นี้เสียบนเทือกเขาเอเวอเรสต์วันอาทิตย์ (21 พ.ค.) ยาเนดรา ชเรสธา (Gyanendra Shrestha ) เจ้าหน้าองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเนปาลให้สัมภาษณ์วันนี้ (22) ว่า ร่างของนักไต่เขาสโลวักถูกนำลงมายังแคมป์เซาท์ โคล
ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 3 คือ นักไต่เขาออสเตรเลีย จากรัฐควีนสแลนด์ วัย 54 ปี ฟรานเซสโก เอ็นริโก มาร์เชตติ (Francesco Enrico Marchetti) ถูกพบเสียชีวิตบนเทือกเขาเอเวอเรสต์ในฝั่งของจีน อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ฮิมาลายันไทม์ส แต่ไม่มีรายละเอียดเปิดเผย
เอพีระบุว่า ยอดเสียชีวิตของนักไต่เขาช่วงฤดูใบไม้ผลิที่เริมต้นตั้งแต่มีนาคมมาจนถึงเดือนนี้อยู่ที่ 5 ราย และสูญหาย 1 ราย
เชื่อว่าในวันนี้ (22 พ.ค.) จะมีจำนวนนักไต่เขามากขึ้นพยายามไต่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์
โดยการท่องเที่ยวเนปาลได้ออกใบอนุญาตให้กับนักไต่เขาทั้งหมด 371 คนในปีนี้ มีจำนวนสูงขึ้นเนื่องจากในปี 2014 และ 2015 นักไต่เขาไม่ได้รับอนุญาตในการขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ เนื่องมาจากเหตุหิมะถล่มขัดขวางฤดูการไต่เขาเนปาล
ทั้งนี้ นักไต่เขาที่ได้รับอนุญาตในปี 2014 ได้รับใบอนุญาตทดแทนให้ขึ้นเทือกเขาเอเวอเรสต์อีกครั้งไปจนถึงปี 2019 โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนนักไต่เขาในปี 2015 ที่ได้รับใบอนุญาตจะสามารถใช้โอกาสพิชิตเทือกเขาเอเวอเรสต์ได้จนถึงแค่ภายในปีนี้เท่านั้น
ใบอนุญาตสำหรับการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์นั้นมีราคาสูง พบว่าตกราว 11,000 ดอลลาร์ต่อ 1 ใบอนุญาต เอพีชี้
บีบีซีรายงานเพิ่มเติมในวันเดียวกัน (21) ว่ามีรายงานจากนักไต่เขาชาวอังกฤษว่า ฮิลลารีสเตป (Hillary Step) หนึ่งในจุดที่ยากที่สุดในการปีนเขาก่อนถึงยอดเอเวอเรสต์นั้นได้รับการยืนยันว่า “ได้หายไปแล้ว”
โดยเชื่อกันว่า ฮิลลารีสเตปได้ถูกทำลายในเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงในปี 2015
ทั้งนี้ พบว่าชื่อของเซอร์เอดมันด์ ฮิลลารี (Sir Edmund Hillary) ถูกนำมาตั้งชื่อหน้าผาสูง 40 ฟุต ที่ระดับความสูง 28,840 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ทางสันเขาด้านตะวันออกเฉียงใต้ของยอดเขาเอเวอเรสต์
ในการรายงานของสื่ออังกฤษ นักไต่เขาแดนผู้ดี ทิม มอซเดล (Tim Mosedale) เป็นผู้ยืนยันข่าวการหายไปของฮิลลารีสเตป บนเฟซบุ๊ก ซึ่งมอสเดลเปิดเผยกับบีบีซีว่า “การหายไปครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่” และกล่าวต่อว่า “มันเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเทือกเขาเอเวอเรสต์ และเป็นที่น่าเสียดายมากที่หนึ่งในตำนานที่มีชื่อเป็นที่เลื่องลือของเทือกเขาเอเวอเรสต์ต้องจบสิ้นไป”
ทั้งนี้ พบว่าจากภาพที่ถูกโพสต์โดยมูลนิธิอเมริกันฮิมาลายัน (American Himalayan Foundation)เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา ชี้ว่า ฮิลลารี สเตปมีการเปลี่ยนแปลง แต่เนื่องมาจากมีหิมะตกมากในเวลานั้น ทำให้เป็นการยากสำหรับนักปีนเขาที่จะสามารถตัดสินได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่างจากปีนี้ที่มีหิมะปกคลุมน้อยลง ทำให้นักไต่เขาเอเวอเรสต์สามารถยืนยันได้อย่างมั่นใจว่า “ฮิลลารีสเตป ไม่มีอยู่แล้ว”
โดยทิม มอซเดลกล่าวว่า “ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ผมสามารถรายงานได้อย่างมั่นใจว่า “ฮิลลารีสเตป” ไม่ปรากฏอยู่อีกต่อไป” ซึ่งเขาระบุว่า การหายไปน่าจะเกิดจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงปี 2015 ของเนปาล