เอเอฟพี - เจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ซึ่งถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งปลด ตกลงจะให้ข้อมูลแบบเปิดเผยต่อสาธารณชนกรณีที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ แถลงเมื่อวานนี้ (19 พ.ค.)
มาร์ก วอร์เนอร์ ผู้นำ ส.ว.เดโมแครตในคณะกรรมการข่าวกรองแห่งวุฒิสภา แถลงว่า “ผมหวังว่าข้อมูลจากผู้อำนวยการ โคมีย์ คงจะช่วยตอบหลายๆ คำถามที่เกิดขึ้น หลังจากท่านถูกประธานาธิบดีสั่งปลดอย่างกะทันหัน”
“ผู้อำนวยการ โคมีย์ ทำงานรับใช้ชาติอย่างเต็มภาคภูมิมานานหลายปี ท่านควรได้รับโอกาสออกมาบอกเล่าเรื่องราว และยิ่งไปกว่านั้นชาวอเมริกันก็ควรจะมีสิทธิ์ได้รับรู้มัน”
ทั้ง วอร์เนอร์ และ ริชาร์ด เบอร์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการข่าวกรองวุฒิสภา ระบุตรงกันว่า พวกเขารอฟังข้อมูลจาก โคมีย์ เกี่ยวกับเรื่องที่รัสเซียใช้อิทธิพลแทรกแซงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. จนเป็นเหตุให้ ทรัมป์ คว้าชัยชนะไปด้วยจำนวนผู้แทนเลือกตั้ง (electoral college) ที่มากกว่า ขณะที่ ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครตแม้จะได้คะแนนป็อปปูลาร์โหวตมากกว่าแต่ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้
คณะกรรมการวุฒิสภายังไม่กำหนดวันเปิดไต่สวนที่แน่นอน แต่คำแถลงระบุว่าน่าจะมีขึ้นหลังจากวันหยุด Memorial Day ซึ่งตรงกับ 29 พ.ค. ปีนี้
ทำเนียบขาวต้องออกมาแถลงแก้ข่าวเป็นพัลวัน หลังสื่อดังในสหรัฐฯ พากันตบเท้าออกมาแฉความผิดของประธานาธิบดีหลายเรื่องในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเรื่องที่ ทรัมป์ เคยกดดัน โคมีย์ ให้ยุติการสอบสวนความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอดีตผู้ช่วยคนสนิท ไมเคิล ฟลินน์
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวานนี้ (19) ว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสทำเนียบขาวคนหนึ่งกำลังถูกสอบสวนฐานเชื่อมโยงกับกรณีที่รัสเซียแทรกแซงเลือกตั้ง ขณะที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สระบุว่า ทรัมป์ ได้เอ่ยกับ เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียว่าปลด โคมีย์ ออกไปเสียได้ก็ “สบายใจขึ้นมาก”
ทรัมป์ ยังพูดต่อหน้า ลาฟรอฟ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า โคมีย์ เป็น “คนสติไม่เต็มเต็ง” (nutjob)
นิวยอร์กไทม์สอ้างว่าข้อมูลเหล่านี้มาจากบันทึกการประชุม ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งนำมาอ่านให้ฟัง
ทำเนียบขาวยืนยันว่า ทรัมป์ ไม่ได้มีเจตนาปลด โคมีย์ เพื่อขัดขวางกระบวนการสอบสวนของเอฟบีไอกรณีความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับทีมงานหาเสียงของเขา
เจเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดของ ทรัมป์ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกเพ่งเล็งว่ามีการติดต่ออย่างน่าสงสัยกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย
เมื่อวันพฤหัสบดี (18) ทรัมป์ ได้ออกมาตัดพ้อว่าตนเป็นเหยื่อ “การล่าแม่มด” ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ และยังปฏิเสธว่าไม่ได้สมคบกับมอสโก
ด้านทำเนียบขาวก็แสดงความมั่นใจวานนี้ (19) ว่าผลการสอบสวนจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า ทรัมป์ พูดความจริง
“อย่างที่ท่านประธานาธิบดีได้กล่าวไปแล้วว่า กระบวนการสอบสวนที่ละเอียดรอบคอบจะช่วยยืนยันว่าทีมหาเสียงของท่านไม่เคยสมคบคิดกับองค์กรต่างชาติ” ฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว ระบุ