เอเอฟพี - กรมศุลกากรมาเลเซียทำลายความพยายามลักลอบนำเต่าสายพันธุ์ที่เสี่ยงสูญพันธุ์มากที่สุดในโลกเข้ามาในประเทศจากมาดากัสการ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งกล่าว
เต่ายูนิฟอรา และเต่าราเดียตา 330 ตัวที่ถูกยึดในสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันอาทิตย์ (14) มีมูลค่าถึง 276,784 ดอลลาร์ (ราว 9.5 ล้านบาท) อับดุล วาฮิด ซูลง รองผู้อำนวยการกรมศุลกากรบอกกับเอเอฟพี
เต่าทั้งหมดนี้ถูกพบขณะยังมีชีวิตอยู่ เขากล่าวเสริม
“มันเป็นการยึดครั้งใหญ่ มันอาจถูกขายในตลาดท้องถิ่นหรือส่งออกต่อไป เรากำลังสืบสวนอยู่” กรมศุลกากร ระบุในถ้อยแถลง
“หลังจากได้รับเบาะแส เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้บุกตรวจค้นพื้นที่คลังสินค้าของสนามบินและพบลังไม้ต้องสงสัยห้าลัง” ถ้อยแถลง ระบุ
“มันมาถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ด้วยเที่ยวบินของสายการบินเอทิฮัดจากสนามบินแอนตานานาริโวในมาดากัสการ์”
เต่ายูนอฟอราที่มีกระดองสีทองเป็นสัตว์พื้นเมืองของมาดากัสการ์และเป็นเต่าสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธ์ที่สุดในโลก เนื่องจากการถูกล่า
เต่าราเดียตาของมาดากัสการ์ซึ่งถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในสายพันธ์เต่าที่สวยที่สุดในโลกก็กำลังใกล้สูญพันธุ์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากการล่าเอาเนื้อของมันและการค้าขายสัวต์ป่าผิดกฎหมาย
อับดุล วาฮิด กล่าวว่า ฉลากติดลังไม้ระบุว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในคือหินและที่อยู่ของผู้รับถูกพบว่าเป็นที่อยู่ปลอม
มาเลเซียห้ามการนำเข้าสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ ใครก็ตามที่ถูกพบว่ากระทำความผิดนี้อาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 3 ปีและถูกปรับ
อลิซาเบธ จอห์น เจ้าหน้าที่สื่อสสารอาวุโสของเครือข่ายเฝ้าติดตามการค้าสัตว์ป่า (Traffic) ระบุว่า การยึดเต่าครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการยึดสินค้าสัตว์อื่นๆ จากแอฟริกา รวมถึงนอแรดและเกล็ดตัวนิ่ม
“ด้วยการยึดสินค้าสัตว์ป่าจากแอฟริกาหลายครั้งเมื่อไม่นานมานี้ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของมาเลเซียกำลังส่งคำเตือนถึงผู้ลักลอบว่าพวกเขากำลังเอาจริง” เธอบอกกับเอเอฟพี
จอห์นกล่าวว่า เส้นทางที่ถูกใช้โดยผู้ลักลอบในหลายคดีเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะเพิ่มการตรวจสอบของสนามบินต่างๆ ในตะวันออกกลาง