เอเอฟพี - สื่อเกาหลีเหนือออกมาอ้างวันนี้ (15 พ.ค.) ว่ารัฐบาลโสมแดงประสบความสำเร็จในการยิงทดสอบจรวดพิสัยกลาง/ไกลรุ่นใหม่ที่สามารถติด “หัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่” ได้
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานว่า สิ่งที่นำออกมายิงทดสอบเมื่อวันอาทิตย์ (14) คือ “ขีปนาวุธฮวาซอง-12” ซึ่งเป็นขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์พิสัยกลาง/ไกลรุ่นใหม่ที่เกาหลีเหนือพัฒนาขึ้น อีกทั้งผู้นำ คิม จอง อึน ยังเดินทางไปควบคุมการทดสอบจรวดรุ่นใหม่ด้วยตนเอง
เกาหลีเหนือถูกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ลงดาบคว่ำบาตรมาแล้วหลายครั้งจากโครงการพัฒนาขีปนาวุธและระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งสร้างความอกสั่นขวัญแขวนแก่เพื่อนบ้านทั่วภูมิภาค รวมไปถึงสหรัฐฯ
เกาหลีเหนืออ้างว่าจำเป็นต้องครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องตนเองจากการถูกต่างชาติรุกราน
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าโสมแดงกำลังมุ่งมั่นพัฒนาจรวดพิสัยไกลข้ามทวีปที่สามารถส่งหัวรบนิวเคลียร์ไปโจมตีแผ่นดินสหรัฐฯ ได้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่า “ไม่มีวันเกิดขึ้น”
ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองชาติร้อนระอุหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ โดยวอชิงตันขู่ว่าการใช้ปฏิบัติการทางทหารกับโสมแดงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่พวกเขาพิจารณาอยู่ ขณะที่เปียงยางก็ออกมายั่วยุไม่เลิกเช่นกัน จนเป็นที่เกรงกันว่าสถานการณ์อาจลุกลามบานปลายถึงขั้นเกิดสงคราม
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ ได้ออกมาผ่อนจุดยืนและเปิดประตูเจรจากับผู้นำโสมแดง โดยกล่าวว่า “ยินดี” ที่จะพบ คิม จอง อึน ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม และยังเอ่ยชมผู้นำหนุ่มรายนี้ว่าเป็น “เด็กฉลาด” (smart cookie)
สัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีใต้ก็เพิ่งจะได้ประธานาธิบดีคนใหม่คือ มุน แจอิน ซึ่งชูแนวทางปรองดองกับเกาหลีเหนือ โดย มุน ได้กล่าวในพิธีสาบานตนว่า หากเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับกาลเทศะ เขาก็พร้อมจะเดินทางไปเปียงยางเพื่อคลายความบาดหมางระหว่างทั้ง 2 ชาติ
กระนั้นก็ดี มุน ได้เรียกประชุมที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงเป็นการด่วนหลังจากโสมแดงทดสอบจรวดครั้งล่าสุด และได้กล่าวประณามการกระทำของเปียงยางว่าเป็น “การยั่วยุที่ไร้ความยับยั้งชั่งใจ”
โฆษกของมุนแถลงว่า การเจรจาจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อ “เกาหลีเหนือเปลี่ยนแปลงทัศนคติของตน”
เคซีเอ็นเอ รายงานว่า การทดสอบเมื่อวานนี้ (14) มีวัตถุประสงค์เพื่อเช็ค “รายละเอียดทางเทคนิคและคุณสมบัติ” ของจรวดรุ่นใหม่ ซึ่ง “สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่มีอำนาจทำลายล้างสูง” และเพื่อรับรอง “ความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่เพิ่งพัฒนาขึ้น”
จรวดของเกาหลีเหนือพุ่งแหวกอากาศขึ้นไปถึงระดับความสูง 2,111.5 กิโลเมตร และคิดเป็นระยะทางจากจุดที่ยิง 787 กิโลเมตร ก่อนจะตกลงสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ “อย่างแม่นยำ”
ทำเนียบขาวเรียกร้องให้นานาชาติรุมคว่ำบาตรโสมแดงให้หนักยิ่งขึ้นไปอีกเพื่อตอบโต้การยิงทดสอบเมื่อวานนี้ (14) พร้อมชี้ว่าจรวดดังกล่าวตกลงสู่ทะเลญี่ปุ่นใกล้พรมแดนรัสเซีย “ซึ่งท่านประธานาธิบดีไม่คิดว่ารัสเซียจะรู้สึกพอใจ”
กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกมาแถลงหลังจากนั้นว่า จุดตกของจรวดเกาหลีเหนืออยู่ห่างจากเขตแดนรัสเซียถึง 500 กิโลเมตร และไม่ได้เป็นภัยคุกคาม
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เรียกประชุมฉุกเฉินช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (16) ตามการร้องขอของสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ขณะที่จีนซึ่งเป็นทั้งพันธมิตรและคู่ค้าหลักของโสมแดงก็เรียกร้องให้ทุกฝ่าย “อดทนอดกลั้น”
อย่างไรก็ดี เคซีเอ็นเอรายงานว่า ผู้นำคิม “สั่งให้นักวิทยาศาสตร์และช่างเทคนิคอย่าเพิ่งพอใจในผลงานครั้งนี้ และให้เดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และวิธีการที่จะส่งมันออกไป” จนกว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะ “เลือกเดินทางที่ถูกต้อง”
คิม ยังเตือนด้วยว่า “สหรัฐฯ จะต้องเผชิญหายนะครั้งเลวร้ายที่สุดอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง หากยังขืนยั่วยุเกาหลีเหนือไม่เลิก” และ “ทุกภูมิภาคของแผ่นดินสหรัฐฯ รวมถึงในแปซิฟิก ล้วนอยู่ในพิสัยโจมตีของเกาหลีเหนือ”