รอยเตอร์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจุดยืนของประธานาธิบดีใหม่เกาหลีใต้ที่สนับสนุนเจรจากับเกาหลีเหนือ ระบุเขาไม่ต่อต้านการพูดคุย แต่ย้ำว่ามันต้องอยู่ภายใต้กรณีแวดล้อมที่เหมาะสม
การสนับสนุนให้พูดคุยกับเกาหลีเหนือของประธานาธิบดีมูน แจ-อิน ดูเหมือนจะสวนทางกับแนวทางของสหรัฐฯ พันธมิตรหลักของเกาหลีใต้ ซึ่งกำลังหาทางเพิ่มแรงกดดันแก่เปียงยาง ต่อโครงการนิวเคลียร์ของขีปนาวุธของพวกเขา ผ่านการโดดเดี่ยวและกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม
ในการตอบคำถามของเอ็นบีซีนิวส์ ที่ถามว่าแนวทางของ มูน จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "เขาเปิดกว้างสำหรับการพูดคุยกว่าเดิม ผมไม่มีปัญหาอะไรกับการเจรจา แต่มันต้องอยู่ภายใต้กรณีแวดล้อมที่แน่นอน"
"บางทีผมอาจให้คำตอบกับคุณได้ดีกว่านี้ในช่วง 1 เดือนหรือ 2 เดือนข้างหน้า เราจะดูว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น" ทรัมป์กล่าวกับเอบีซีนิวส์ ในบางส่วนของบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่ในวันศุกร์(12พ.ค.) "สถานการณ์เกาหลีเหนือ เป็นสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่งสำหรับเกาหลีใต้ สำหรับญี่ปุ่น เช่นเดียวกับจีนและทั่วโลก และผมคิดว่าเราจัดการมันได้อย่างดี อย่างหนักแน่น"
ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีพุ่งสูงมานานหลายเดือนแล้ว จากโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และความกังวลว่าเปียงยางอาจขัดขืนมติของคณะมนตรีความั่นคงแห่งสหประชาชาติอีก ด้วยการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และทดสอบขีปนาวุธเพิ่มเติม
เกาหลีเหนือกำลังพัฒนาขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ซึ่งมีศักยภาพยิงไกลถึงแผ่นดินสหรัฐฯ และในวันพฤหัสบดี(11พ.ค) แดน โคทส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติอเมริการะบุว่าเกาหลีเหนือคือภัยคุกคามใหญ่หลวงที่สหรัฐฯจำเป็นต้องจัดการ
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ เปิดประตูสำหรับพูดคยกับ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยบอกว่าเขาจะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งหากได้พบปะกับคิม แต่ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สหรัฐฯบอกว่าพวกเขาไม่เห็นค่าของการรื้อฟื้นโต๊ะเจรจานานาชาติกับเกาหลีเหนือ จนกว่าเปียงยางจะให้สัญญาอย่างชัดเจนว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์
มูน ซึ่งเพิ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ใช้แนวทางประนีประนอมมากกว่าผู้นำคนก่อนของเกาหลีใต้และเผยว่าเขาพร้อมจะเดินทางไปเยือนกรุงเปียงยาง เพื่อพบปะกับคิม จองอึน หากสภาวการณ์เอื้ออำนวย
เขาบอกกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเมื่อวันพฤหัสบดี(11พ.ค.) ว่าทางออกของประเด็นเกาหลีเหนือ จำเป็นต้องครอบคลุมและต่อเนื่อง โดยใช้การกดดันและมาตรการคว่ำบาตรคู่ขนานไปกับการเจรจา