xs
xsm
sm
md
lg

อัสซาดออกโรงชมปูติน ข้อเสนอเซฟโซนของรัสเซีย เป็นโอกาสที่แท้จริงต่อการเจรจาสันติภาพซีเรีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีซีเรีย อัสซาด ออกมาให้ความเห็นล่าสุด โดยเชื่อว่า โซนลดการยกระดับ (de-escalation zones) หรือ ที่เรียกว่า โซนปลอดภัย จากข้อเสนอของรัสเซียนั้นจะสามารถบรรลุถึงสันติภาพในซีเรียในท้ายที่สุด อ้างไปถึงข้อเสนอทั้งหมดที่มีมาก่อนหน้าล้วนแล้วแต่มีการเมืองส่วนตัวแฝง

RT รายงานวันนี้(12 พ.ค)ว่า ในการให้สัมภาษณ์ผ่านทางสื่อทีวีเบลารุส ONT ที่ออกอากาศในวันพฤหัสบดี(11 พ.ค) และผ่านการรายงานของสื่อทางการซีเรีย สำนักข่าวซานา ผู้นำซีเรีย ประธานาธิบดี บาชาร์ อัสซาด กล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดของโซนลดการยกระดับ (de-escalation zones) หรือที่เรียกว่า โซนปลอดภัย คือการปกป้องพลเรือนที่สันติ แต่อย่างไรก็ตาม อัสซาดระบุว่า เขายังเปิดโอกาสให้กับกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ “ในการเข้าสู่โต๊ะเจรจาหยุดยิงชั่วคราวกับรัฐบาลซีเรีย” ”

และในการให้ความเห็นผ่านการสัมภาษณ์ ผู้นำซีเรียยังกล่าวต่อว่า “นี่ถือเป็นโอกาสสำหรับคนที่มีอาวุธอยู่ในมือที่จะหยุดคิด หรือจะให้พูดในอีกทางก็คือ หากตัดสินใจยอมวางอาวุธ การอภัยโทษก็จะตามมา”

สื่อรัสเซียชี้ว่า ผู้นำซีเรียได้ชื่นชมต่อความพยายามของรัสเซียในการสร้างสันติภาพ โดยเฉพาะข้อเสนอผ่าน “การเจรจาสันติภาพอัสตานา” ซึ่งทางฝ่ายมอสโกได้เสนอให้สร้าง “โซนลดการยกระดับ” ในข้อตกลงร่วมกับประเทศที่ให้การค้ำประกันคือ อิหร่าน และ ตุรกี

“ในกรุงอัสตานา การเจรจาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธภายใต้การเป็นสปอนเซอร์ของชาติรัสเซีย และเป็นเพราะจากการเสนอของรัสเซีย…ทำให้สิ่งนี้เริ่มที่จะส่งผลผ่านความพยายามมากกว่าหนึ่งครั้งในการที่จะยุติการสู้รบชั่วคราว ซึ่งเป็นข้อเสนอล่าสุดที่รู้จักในนาม "การลดระดับการยกระดับ” อัซ:าดชี้

“ซึ่งมันถูกต้องในหลักการ และทางเราให้การสนับสนุนแต่แรก เพราะเป็นแนวความคิดที่ถูกต้อง ซึ่งการที่จะได้ผลหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับการบังคับใช้เท่านั้น” อัสซาดให้ความเห็น

ทั้งนี้ RT ระบุว่า โซนปลอดภัยนั้นจะถูกจัดตั้งจังหวัดต่างๆของซีเรีย ที่รวมไปถึง อิดลิบ อะเลปโป และฮอมส์ ซึ่งในปัจจุบันนี้ มีการอยู่รวมในพื้นที่ของกลุ่มประชาชนในพื้นที่ กลุ่มกบฏติดอาวุธ และกลุ่มก่อการร้าย

โดยอัสซาดได้อธิบายถึงเขตเซฟโซนต่อว่า จุดประสงค์ของการต้องสร้างเขตปลอดภัยเหล่านี้ เพื่อต้องการปกป้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง และเปิดโอกาสให้กับกลุ่มกบฎซีเรียยอมวางอาวุธเพื่อแลกกับการได้รับการอภัยโทษ

ในขณะที่ผู้นำรัสเซียยังมองในแง่บวกว่า ข้อเสนอเขตลดระดับการยกระดับจะประสบความสำเร็จ แต่กระนั้นอัสซาดยังส่งสัญญาณเตือนไปยังโลกตะวันตก และชาติพันธมิตรของประเทศเหล่านี้ในตะวันออกกลางถึงเขตเซฟโซนที่ว่านี้ ชาติตะวันตกที่สนับสนุนบรรดากลุ่มกบฎทั้งด้านเงินทุนและอื่นๆ นั้นจะกลายเป็นการบั่นทอนเสถียรภาพในเขตปลอดภัย

โดยกล่าวว่า “ซึ่งสิ่งนี้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” และเสริมว่า “ข้อเสนอในอดีตนั้นล้มเหลวไม่ใช่เพราะมันไม่ได้ผล แต่เป็นเพราะประเทศเหล่านั้นเข้าแทรกแซงเพื่อทำให้มีการยกระดับทางทหารขึ้นมาอีกครั้ง”

และในการให้สัมภาษณ์ ประธานาธิบดีอัสซาดยังขู่ว่า ความพยายามใดๆที่จะทำให้ก่อความไม่สงบในเขตปลอดภัยนั้นจะต้องล้มเหลว โดยชี้ว่า ซีเรียบวกกับกองกำลังรัสเซีย ที่มีทั้งอิหร่านและฮิซบุลลอฮ์อยู่ร่วม จะโจมตีความเคลื่อนไหวใดก็ตามที่เกิดมาจากกลุ่มก่อการร้าย หากพยายามที่จะละเมิดข้อตกลง”

ซึ่งอัสซาดชี้ว่า เท่าที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ข้อตกลงสันติภาพอัสตานานั้นได้ผลมากกว่ากรอบการเจรจาเจนีวา เพราะกรอบที่ว่านี้มีผลสำเร็จน้อยกว่ามาก

ทั้งนี้ในการให้สัมภาษณ์ในวันพฤหัสบดี(11 พ.ค) ผู้นำซีเรียยังให้ความเห็นไปถึงการโจมตีของสหรัฐฯด้วยจรวดโทมาฮอก 59 ลูก ที่ยิงออกมาจากเรือรบสหรัฐฯในการส่งสัญญาณเตือนเชิงสัญลักษณ์ถึงเหตุการณ์ใช้อาวุธเคมีในอิดลิบว่า เป็นคำสั่งที่ออกมาจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และเป็นการกล่าวโทษของวอชิงตันต่อดามัสกัสโดยไม่มีการสืบสวนอย่างเหมาะสม

“หลังจากที่พวกเขาล้มเหลวในการโฆษณานโยบายต่อกลุ่ม ISIS และกลุ่มอัล-นุสราฟรอนต์ผ่านการสนับสนุนกลุ่มเหล่านี้ทั้งทางตรงทางอ้อมแล้ว คนเหล่านี้ต้องการล้างมือในเรื่องที่เกิดขึ้น และต้องการแสดงให้โลกรู้ว่า ปัญหาในซีเรียนั้นไม่ใช่ทั้ง ISIS และกลุ่มอัล-นุสราฟรอนต์ แต่เป็นรัฐที่กำลังฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วยก๊าซพิษ” อัสซาดกล่าว

และเสริมต่อว่า “ซึ่งสิ่งนี้ยังเป็นเสมือนการปกปิดสำหรับการเข้าแทรกแซงของอเมริกันในซีเรีย เพราะอย่างที่คุณรู้ ทรัมป์กำลังประสบปัญหาสถานการณ์ยุ่งยากภายใน และความขัดแย้งในชุดรัฐบาลของเขา”


กำลังโหลดความคิดเห็น