เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - บริษัท เดอะคุชเนอร์ คอมปานีส์ (the Kushner Companies) ของลูกเขยทรัมป์ จาเรด คุชเนอร์ ยอมถอย ยกเลิกการจัดงานระดมทุนโปรโมตโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่อในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ในจีน ที่จะถูกจัดขึ้นในเมืองเสิ่นเจิ้น และเมืองกว่างโจว หลังก่อนหน้ามีการวิจารณ์ไปทั่ววอเมริกาถึงผลประโยชน์ทับซ้อน
บีบีซีรายงานวันนี้(12 พ.ค)ว่า การยกเลิกการจัดงานระดมทุนสำหรับโครงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สร้างอพาทเมนต์สุดหรูในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ภายใต้ชื่อ “โครงการคุชเนอร์ 1” ในเมืองเสิ่นเจิ้น และเมืองกว่างโจวที่จะถูกจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้(13 พ.ค) และวันอาทิตย์(14 พ.ค)นั้นได้มีการประกาศถูกยกเลิกไปในท้ายที่สุด
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นิโคล คุชเนอร์ เมเยอร์ (Nicole Kushner Meyer) น้องสาว จาเรด คุชเนอร์ ที่มีความเกี่ยวพันกับประธานาธิบดีสหรัฐฯในฐานะลูกเขย ได้ลงทุนเดินทางไปโปรโมทโครงการธุรกิจของตระกูลด้วยตนเองในเมืองปักกิ่งและเมืองเซียงไฮ้
ต่อหน้านักลงทุน เมเยอร์ได้กล่าวเชิญชวนโดยอ้างให้นักลงทุนจีนร่วมลงทุนในโครงการอพาทเมนท์สุดหรูของเธอคนละอย่างน้อย 500,000 ดอลลาร์ และจะได้รับสิทธิ์ได้วีซ่ากรีนการ์ดเศรษฐี EB-5 อาศัยอยู่ในสหรัฐฯได้นาน 2 ปี สร้างเสียงวิจารณ์ไปทั่ว จนถึงขั้น สว.สายเหยี่ยวพรรคเดโมแครต ไดแอนน์ ไฟน์สไตน์ (Dianne Feinstein) ออกแถลงในวันจันทร์ (8 พ.ค) ที่ผ่านมา ชี้เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนตัวเบ้ง รวมไปถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนในอเมริกาในสัปดาห์นี้
แต่อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทของตระกูลคุชเนอร์ ที่ลูกเขยทรัมป์เคยนั่งบริหารจนถึงเดือนมกราคมล่าสุดออกแถลงการณ์อ้างว่า เป็นการตีความที่ผิดพลาด แต่ยอมขออภัย
ซึ่งพบว่า เมเยอร์และ ลอเรนต์ โมราลี(Laurent Morali) ประธานบริษัท เดอะคุชเนอร์ คอมปานีส์ (the Kushner Companies) นั้นได้ถูกประกาศว่า จะร่วมอยู่ในการจัดงานระดมทุนโครงการในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้
แต่อย่างไรก็ตาม บีบีซีชี้ว่า ในวันพฤหัสบดี(11 พ.ค) เจมส์ โยล์เลซ( James Yolles) โฆษกของบริษัทเดอะคุชเนอร์ คอมปานีส์ออกแถลงการณ์ประกาศว่า “ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้จะไม่มีใครจากทางบริษัทคุชเนอร์ คอมปานีส์จะอยู่ที่จีนในสัปดาห์นี้”
บีบีซีกล่าวว่า ในงานระดมทุนสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เมเยอร์ได้มีการเอ่ยพาดพิงไปถึงพี่ชายของเธอในงาน และทำให้ในเวลาต่อมาเธอต้องออกแถลงการณ์ขออภัย รวมไปถึงยังได้มีการนำเสนอสไลด์โชว์โดยมีภาพประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกอบ
สื่ออังกฤษชี้ว่าสำหรับโครงการวีซ่ากรีนการ์ดเศรษฐี EB-5 เป็นโครงการที่สหรัฐฯต้องการส่งเสริมการสร้างงานในสหรัฐฯ แต่กลับถูกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และนักลงทุนจีนใช้เป็นช่องทางการได้สิทธิ์กรีนการ์ดเพื่อพำนักในอเมริกา
โครงการนี้ได้ถูกต่ออายุออกไปจนถึงการสิ้นสุดงบประมาณปี 2017 ในปลายเดือนกันยายนนี้ แต่ สว.ไฟน์สไตน์ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการยกเลิก โดยชี้ว่าเป็นเส้นทางที่ทำให้เกิดความฉ้อฉล และผลประโยชน์ทับซ้อน
ทั้งนี้พบว่าในปี 2014 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และลูกเขย คุชเนอร์ ได้จับมือร่วมกันทางธุรกิจใช้โครงการวีซ่า EB-5 ในการหาเงินจากการระดมทุนจากนักลงทุนต่างชาติสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ทรัมป์ เบย์ สตรีท (Trump Bay Street) ในเมืองเจอร์ซีย์ ซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยในขณะนั้นคนทั้งคู่ได้รับเม็ดเงินร่วม 50 ล้านดอลลาร์ผ่านโครงการวีซ่า EB-5
ซึ่งจากการเปิดเผยของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ที่ได้ตีแผ่ถึงการเดินทางไปจีนของเมเยอร์ระบุว่า ในงานอีเวนต์ที่เมเยอร์เข้าร่วม ได้มีการออกมายืนยันกับนักลงทุน ที่ส่งสัญญาณคล้ายกับว่าเป็นข่าววงใน ที่อ้างออกไปว่า เป็นการดีสำหรับนักลงทุนจีนที่จะทุ่มเงินในโครงการอสังหาริมทรัพย์อพาร์ตเมนต์สุดหรูนี้ ยิ่งเร็วยิ่งดี ก่อนที่โครงการวีซ่า EB-5 จะถูกเปลี่ยนภายใต้กฎใหม่ภายใต้รัฐบาลทรัมป์
และพบว่า หนึ่งในผู้ที่ขึ้นกล่าวบนเวทีอีเวนต์ได้ประกาศเชิญชวนแกมบังคับว่า “ลงทุนแต่เนิ่นๆ และจะทำให้พวกคุณสามารถลงทุนภายใต้กฎเดิมที่คุ้นเคย”