“โบอิ้ง” หยุดบินทดสอบ 737 MAX หลังพบปัญหา “เครื่องยนต์”

เอเจนซีส์ - “โบอิ้ง” สั่งระงับบินทดสอบเครื่องบินโดยสารประหยัดเชื้อเพลิงรุ่นใหม่ 737 MAX หลังพบข้อบกพร่องในเครื่องยนต์เพียงไม่กี่วันก่อนจะถึงกำหนดส่งมอบเครื่องบินล็อตแรกให้แก่ลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ค่ายอากาศยานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ยืนยันว่า ปัญหาที่พบไม่ส่งผลต่อสายการผลิต และบริษัทยังพร้อมที่จะส่งมอบเครื่องบินได้ตามกำหนดเดิมในเดือนนี้

โบอิ้ง 737 MAX เป็นอากาศยานชนิดทางเดินเดี่ยวที่จุผู้โดยสารได้ประมาณ 200 คน และจัดเป็นเครื่องบินในตระกูล 737 ที่ประหยัดเชื้อเพลิงมากที่สุด โบอิ้งชูคุณสมบัติข้อนี้มาเป็นจุดขาย และทำให้เครื่องบินรุ่นนี้ได้รับความนิยมจากสายการบินต่างๆ ที่ต้องการลดต้นทุนเชื้อเพลิง

อเมริกันแอร์ไลน์ส, เซาท์เวสต์ และซานตงแอร์ไลน์สของจีน เป็นหนึ่งในหลายๆ สายการบินทั่วโลกที่สั่งซื้อเครื่องบินโดยสารรุ่นนี้

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สไปซ์เจ็ตของอินเดียก็ได้ทำสัญญาสั่งซื้อเครื่องบินล็อตใหญ่จากโบอิ้งรวม 205 ลำ มูลค่ากว่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทางโบอิ้งยืนยันว่าฝูงบิน 737 MAX ชุดแรกจะถูกส่งมอบให้แก่สไปซ์เจ็ตได้ภายในปี 2018

โบอิ้ง แถลงว่า บริษัทเพิ่งได้รับแจ้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าพบปัญหาในส่วนของกังหันเทอร์ไบน์ (turbine engine discs) ซึ่งผลิตโดยบริษัท ซีเอฟเอ็ม อินเทอร์เนชันแนล

ซีเอฟเอ็ม เป็นกิจการร่วมทุนระหว่าง เจเนอรัล อิเล็กทริก ของสหรัฐฯ และบริษัท ซาฟราน ในฝรั่งเศส ซึ่งร่วมกันผลิตเครื่องยนต์สำหรับใช้ในฝูงบิน 737 MAX

โบอิ้ง ระบุว่า ตลอดการบินทดสอบ 737 MAX นานกว่า 2,000 ชั่วโมงยังไม่เคยพบข้อบกพร่องในกังหันเทอร์ไบน์มาก่อน

“แต่เพื่อความไม่ประมาท เราจึงตัดสินใจระงับการทดสอบฝูงบิน MAX เอาไว้ชั่วคราว เพราะความปลอดภัยของนักบินและผู้โดยสารที่เดินทางด้วยอากาศยานของโบอิ้งคือสิ่งสำคัญที่สุด” โบอิ้ง เผยกับบีบีซี

737 MAX 8 เป็นอากาศยานรุ่นแรกในตระกูล 737 MAX ที่ถูกผลิตออกมา มีราคาแคตตาล็อกอยู่ที่ลำละ 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,800 ล้านบาท) ทว่าสายการบินที่สั่งซื้อมักจะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก

รุ่นถัดไปที่จะทำการผลิตคือ 737 MAX 9 ซึ่งสามารถจุผู้โดยสารได้มากกว่า โดยโบอิ้งได้ทดสอบบินครั้งแรกไปเมื่อเดือน เม.ย.