xs
xsm
sm
md
lg

“ลุมพินีวัน” สถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า มีมลพิษอยู่ในระดับอันตราย เผชิญ 'อุตสาหกรรม-ขนส่ง' ขยายตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ลุมพินีวัน ประเทศเนปาล  (ภาพจากวิกิพีเดีย) </i>
บีบีซีนิวส์/เอเจนซีส์ - นักวิจัยและเจ้าหน้าที่เนปาลเตือนป่าลุมพินีวัน สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า กำลังเผชิญมลพิษทางอากาศขั้นรุนแรงจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมและการขนส่งข้ามพรมแดนกับอินเดีย ทางด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเผยรับรู้ปัญหาแล้ว และกำลังเตรียมใช้โดรนออกสำรวจแห่งมลพิษเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป เนื่องจากเนปาลมีแผนพัฒนาสังเวชนียสถานแห่งนี้ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก

การตรวจวัดในเดือนมกราคมพบอนุภาคฝุ่นละออง (PM2.5) ในลุมพินีวัน อยู่ที่ระดับ 173.035 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เปรียบเทียบกับค่าที่วัดได้ในเมืองจิตวันที่อยู่ใกล้เคียง 113.32 และ 109.82 ในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งรู้กันดีว่า เป็นเมืองที่มีระดับมลพิษสูง

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (ฮู) จำกัดระดับที่ปลอดภัยสำหรับมลพิษไว้ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนมาตรฐานของรัฐบาลเนปาลอยู่ที่ 40 ลูกบาศก์เมตร

การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ยังชี้ถึงแนวโน้มระดับมลพิษที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งภายในและรอบๆ ลุมพินีวัน ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเนปาล

งานศึกษาที่สถาบันอุตุนิยมวิทยาเขตร้อนของอินเดียจัดทำร่วมกับฮูระบุว่า การขนส่งข้ามพรมแดนจากที่ราบลุ่มแม่น้ำคงคาตอนเหนือของอินเดียที่เต็มไปด้วยมลพิษ รวมทั้งมลพิษของย่านอุตสาหกรรมท้องถิ่นอันเนื่องมาจากการผกผันของอุณหภูมิ เป็นตัวการทำให้เกิดมลพิษรุนแรงในฤดูหนาว นอกจากนั้น การปล่อยไอเสียในท้องถิ่นยังเป็นสาเหตุให้คุณภาพอากาศเลวร้าย

รายงานยังพบว่า ฝุ่นละเอียดขนาด PM2.5 ที่สามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้นั้น กำลังอยู่ในปริมาณสูงกว่าระดับปลอดภัยที่ฮูกำหนด กว่า 10 เท่า

งานศึกษาอีกฉบับที่จัดทำโดย องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) และยูเนสโกพบว่า มลพิษเริ่มคุกคามลุมพินีวัน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

“การขยายตัวของอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนภายในเขตคุ้มครองลุมพินีวันนำมาซึ่งปัญหามากมาย เช่น การคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ อันตรายต่อสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่น มรดกทางโบราณคดี คุณค่าทางสังคมและวัฒนธรรม”

คอนสแตนติโน มิวชี นักโบราณคดีอิตาลีจากมหาวิทยาลัยโรม ระบุในรายงานของไอยูซีเอ็นว่า จากการศึกษาตัวอย่างจากเสาหินพระเจ้าอโศกที่จารึกว่า บริเวณนั้นคือที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะนั้น พบยิปซัม, แคลไซต์, โดโลไมต์ และแมกนีไซต์ในรูปผงละเอียดสะสมอยู่บนพื้นผิว และสารประกอบทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของวงจรการผลิตซีเมนต์
<i>แผนที่ประเทศเนปาล  แสดงที่ตั้งของลุมพินีวัน  (ภาพจากวิกิพีเดีย) </i>
หน่วยงานรัฐบาลเนปาลได้กำหนดพื้นที่บริเวณ 15 กม.จากอาณาเขตทางตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกของลุมพินีวันเป็นเขตคุ้มครองลุมพินีวัน (แอลพีแซด)

ทว่า ส่วนที่ติดกับแอลพีแซดนั้นเป็นเขตอุตสาหกรรมการผลิตซีเมนต์ เหล็กกล้า กระดาษ บะหมี่ และเตาเผาอิฐ ที่กำลังขยายตัว ซ้ำร้ายโรงงานหลายแห่งยังอยู่ภายในแอลพีแซด ซึ่งถือว่า ละเมิดกฎระเบียบของรัฐบาลอย่างชัดเจน

นักท่องเที่ยวและพระสงฆ์ที่เดินทางไปยังลุมพินีวันหลายคนเผยว่า หายใจไม่สะดวกและมีอาการไอจาม บางคนต้องสวมหน้ากากขณะนั่งสมาธิในมายาเทวีวิหาร และผู้ที่เป็นโรคหอบหืดบางคนต้องเดินทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ก่อนกำหนด

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในบริเวณดังกล่าวสำทับว่า ปัญหามลพิษนับวันยิ่งแย่ลง และผลศึกษาหลายฉบับพบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีประชาชนป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับปอดและโรคผิวหนังเพิ่มขึ้น

ลุมพินีวันเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญทั้งด้านการท่องเที่ยวและสำหรับพุทธศาสนิกชน ปีที่แล้ว มีผู้เดินทางไปยังสถานที่นี้ถึง 1 ล้านคน และรัฐบาลเนปาลมีแผนพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก

จันการ์ ปราสาท ปูเดล หัวหน้าส่วนการตรวจวัดมลพิษทางอากาศของกระทรวงสิ่งแวดล้อมบอกว่า รัฐบาลตระหนักว่า ลุมพินีวันมีระดับมลพิษสูงกว่ากาฐมาณฑุ และมีแผนใช้โดรนออกสำรวจแหล่งมลพิษในอนาคตอันใกล้เพื่อหาทางบรรเทาปัญหานี้

กำลังโหลดความคิดเห็น