ฝรั่งเศสเปิดคูหาเลือกตั้งผู้นำรอบชิง โพลชี้คนแดนน้ำหอมไม่เอาขวาจัด

รอยเตอร์ – หลังการหาเสียงที่เต็มไปด้วยความอลหม่านและเรื่องอื้อฉาว ชาวฝรั่งเศสก็ได้ทะยอยออกจากบ้านไปหย่อนบัตรลงคะแนนในวันอาทิตย์ (7 พ.ค.) เพื่อเลือกว่า จะยกให้นักการเมืองสายกลางฝักใฝ่อียู หรือนักการเมืองขวาจัดที่ต่อต้านอียูและผู้อพยพ ได้ขึ้นบริหารประเทศในช่วง 5 ปีนับจากนี้ โดยโพลล์ล่าสุดยังคงให้ "เอ็มานูเอล มาครง" นำลิ่วกว่า 20 จุด

ผลสำรวจความคิดเห็นชี้ชัดว่า ผู้ที่นำโด่งมาตั้งแต่ต้นจนกระทั่งล่าสุดยังคงเป็น "เอ็มมานูเอล มาครง" อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจวัย 39 ปีที่ต้องการประสานรอยร้าวระหว่างฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวา และขัดขวางกระแสต่อต้านสถาบันที่เคยโหวตให้อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) และทำให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

แต่ถ้าหากผลการเลือกตั้งพลิกล็อก "มารีน เลอแปน" ผู้สมัครจากพรรค "เนชันแนล ฟรอนต์" กลายเป็นผู้ชนะ อนาคตของอียูอาจเป็นสิ่งที่ต้องลุ้นกันต่อไป

มาครงที่ต้องการผ่อนคลายกฎระเบียบทางเศรษฐกิจ และผนึกแน่นกับอียูมากขึ้น มีคะแนนนำเลอ เปนในโพลล์ 23-26%

ที่น่าสนใจก็คือ การคาดการณ์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกเมื่อปลายเดือนที่แล้วค่อนข้างแม่นยำ และตลาดการเงินพุ่งทะยานรับข่าวคะแนนมาครงนำลิ่วหลังการแสดงวิสัยทัศน์ถ่ายทอดสดทางทีวีเมื่อวันพุธ (3 พ.ค.)

อย่างไรก็ตาม ในการหาเสียงที่บรรดาตัวเก็งหลุดจากวงโคจรทีละคนสองคนนั้น เลอแปนที่ต้องการปิดพรมแดนฝรั่งเศส ยกเลิกการใช้เงินยูโร และจำกัดการรับผู้อพยพ สามารถเข้าใกล้ตำแหน่งผู้นำจากการเลือกตั้งมากกว่านักการเมืองขวาจัดประเทศอื่นๆ ในยุโรปตะวันตกนับจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา

นอกจากนั้น แม้ผลสำรวจความคิดเห็นได้รับการพิสูจน์ว่าแม่นยำ และคนฝรั่งเศสตกลงใจเลือกประธานาธิบดีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์มากกว่าผู้นำหญิงคนแรกของประเทศ แต่มาครงก็ยอมรับว่า คงไม่มีช่วงเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์

คาดกันว่าจะมีคนนอนหลับทับสิทธิ์จำนวนมาก และเกือบ 60% ของคนที่บอกว่าจะออกไปโหวตให้มาครง ล้วนให้เหตุผลว่า เพราะต้องการสกัดไม่ให้เลอแปนได้เป็นประธานาธิบดี มากกว่าการเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์กับนโยบายของมาครง อดีตนายแบงก์ที่ผันตัวเองมาเล่นการเมือง

นอกจากนั้น การเลือกตั้งในวันอาทิตย์ยังไม่ใช่จุดจบของการต่อสู้ระหว่างนโยบายกระแสหลักและนโยบายสุดโต่งในการเมืองฝรั่งเศส เพราะในเดือนหน้าจะมีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ดังนั้นทันทีที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีปิดฉากลง ความสนใจจะพุ่งไปที่คำถามว่า ผู้ชนะจะสามารถกวาดเสียงข้างมากในสภาได้หรือไม่ โดยโพลล์ชิ้นหนึ่งที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า มาครงมีโอกาสรวบรวมเสียงข้างมากได้ แต่ปัจจัยสำคัญยังขึ้นอยู่กับคะแนนการเลือกตั้งของทั้งมาครงและเลอแปนในวันอาทิตย์

มารียง มาเรชาล-เลอแปน หลานสาวของเลอแปน ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ โลปินิยอง เมื่อวันพฤหัสบดี (4 พ.ค.) ว่าถ้าเลอแปนเก็บคะแนนได้ 40% ก็ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่แล้วสำหรับ "เนชันแนล ฟรอนต์"

ไม่ว่าผู้ชนะจะเป็นใครก็ตาม การเมืองฝรั่งเศสกำลังเริ่มต้นบทใหม่ที่พรรคการเมืองกระแสหลักทั้งปีกซ้ายและปีกขวาคือ "โซเชียลลิสต์" และ "รีพับลิกัน" ที่เคยปกครองฝรั่งเศสมานับสิบปี ล้วนพ่ายแพ้ยับเยินในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรก

การหาเสียงเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสยังเจอเรื่องชวนประหลาดใจอีกครั้งเมื่อคืนวันศุกร์ (5 พ.ค.) หรือก่อนเข้าสู่ช่วงเวลาที่ห้ามการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองและยุติการหาเสียง เมื่อทีมหาเสียงของมาครงเผยว่า ถูกแฮ็กและนำอีเมล เอกสาร และข้อมูลการระดมทุนในการหาเสียงออกเผยแพร่ทางระบบออนไลน์

ทั้งนี้ สำนักจัดทำโพลล์จะเผยแพร่ผลการนับคะแนนเบื้องต้นในเวลา 20.00 น. วันอาทิตย์ (เวลาไทย 1.00 น. วันจันทร์) หลังปิดคูหาอย่างเป็นทางการ

รายงานระบุว่า ตำรวจกว่า 50,000 นายกระจายกำลังรักษาความปลอดภัย เนื่องจากความปลอดภัยเป็นข้อกังวลหลัก หลังเหตุโจมตีปารีส นีซ และอีกหลายจุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 230 คน