รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - นักเรียนหญิง 82 คนซึ่งอยู่ในกลุ่มจำนวนกว่า 200 คนที่ “โบโกฮารัม” พวกติดอาวุธหัวรุนแรงสุดโต่ง จี้จับลักพาตัวไปจากเมืองชิบ็อก เมืองเล็กๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียเมื่อ 3 ปีก่อน ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้วโดยแลกเปลี่ยนกับการที่รัฐบาลยินยอมปล่อยนักโทษ สำนักประธานาธิบดีไนจีเรียแถลงในวันเสาร์ (6 พ.ค.)
กลุ่มนักรบของโบโกฮารัม ได้บุกจู่โจมเข้าไปในโรงเรียนมัธยมสตรีของรัฐบาลในเมืองชิบ็อก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ห่างไกล เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2014 และจี้จับตัวนักเรียนหญิงวัยรุ่นไปเป็นจำนวน 276 คน พฤติการณ์สะเทือนขวัญคราวนั้นทำให้พวกหัวรุนแรงอิสลามิสต์สุดโต่งกลุ่มนี้กลายเป็นที่รู้จักและถูกประณามจากทั่วโลก ทั้งนี้ โบโกฮารัมยังได้ก่อเหตุไม่สงบอื่นๆ อีกมากมาย รวมแล้วคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 15,000 คนและทำให้อีกกว่า 2 ล้านคนกลายเป็นคนพลัดที่นาคาที่อยู่ ในระหว่างช่วงเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ด้วยจุดมุ่งมุ่งหมายที่จะจัดตั้งรัฐกาหลิบ (คอลีฟะห์) แบบอิสลามขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย
ในจำนวนนักเรียนหญิงที่ถูกจับตัวไปนั้น มี 57 คนสามารถหลบหนีออกมาได้ท่ามกลางความโกหาหลวุ่นวายในช่วงชั่วโมงแรกๆ ของการลักพา ทว่ายังเหลืออยู่อีก 219 คนซึ่งถูกโบโกฮารัมควบคุมตัวเอาไว้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยที่กลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มนี้ออกข่าวว่าพวกเธอซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์ จำนวนมากถูกบังคับให้แต่งงานกับนักรบโบโกฮารัม และมีบุตรด้วยกัน ขณะที่มีบางคนถูกกลุ่มนี้ใช้ให้เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย
คำแถลงของสำนักประธานาธิบดีไนจีเรีย ได้กล่าวขอบคุณสวิตเซอร์แลนด์ และคณะกรรมการกาชาดสากล ที่ได้ให้ความช่วยเหลือจนกระทั่งเด็กสาว 82 คนเหล่านี้ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ หลังจาก “การเจรจาต่อรองกันอย่างยาวนาน”
ประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารี จะไปต้อนรับเด็กหญิงเหล่านี้ด้วยตนเองในตอนบ่ายวันอาทิตย์ (7) ในเมืองหลวงอาบูจา คำแถลงฉบับนี้ระบุ ทว่าไม่ได้กล่าวว่ารัฐบาลยินยอมปลดปล่อยผู้ต้องสงสัยว่าเป็นพวกโบโกฮารัม เป็นจำนวนเท่าใด ในการแลกเปลี่ยนกันคราวนี้ หรือเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ มากไปกว่านี้
แหล่งข่าวทั้งทหารและพลเรือนเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เด็กสาวเหล่านี้ถูกนำตัวมาถึงเมืองบังคี ใกล้ๆ ชายแดนติดต่อกับแคเมอรูน ในตอนใกล้ค่ำวันเสาร์ (6) จากนั้นพวกเธอก็ถูกนำตัวไปยังค่ายทหารรัฐบาล ขณะที่แหล่งข่าวฝ่ายทหารรายหนึ่งบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ตอนเช้าวันอาทิตย์ (7) พวกเธอถูกนำตัวออกจากเมืองบังคี ไปยังเมืองไมดูกูรี เมืองเอกของรัฐบอร์โน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นก่อความไม่สงบของพวกโบโก ฮารัม
การปล่อยตัวเด็กสาวเหล่านี้ น่าจะเพิ่มพูนเครดิตความน่าเชื่อถือให้แก่บูฮารี ผู้ซึ่งแทบไม่ได้ปรากฏตัวในที่สาธารณะเลย นับตั้งแต่เดินทางกลับจากอังกฤษในเดือนมีนาคม เพื่อบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยซึ่งไม่ได้มีการระบุว่าเป็นโรคอะไร
เขาเคยประกาศในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2015ว่า การกวาดล้างปราบปรามการก่อความไม่สงบของพวกโบโกฮารัม คือนโยบายสำคัญที่สุดประการหนึ่งของเขา
กองทัพแถลงว่าสามารถชิงเอาพื้นที่แทบทั้งหมดที่ได้เคยสูญเสียให้แก่กลุ่มนักรบหัวรุนแรงสุดโต่งกลุ่มนี้ไป กระนั้นพวกโบโกฮารัม ก็ยังคงก่อเหตุเข้าโจมตีรวมทั้งการใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายอยู่ไม่ขาดสาย จนทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกผู้พลัดถิ่นจะสามารถเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของพวกเขาที่ฝ่ายรัฐบาลตีคืนมาได้
“ท่านประธานาธิบดีสั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหลายยังคงต้องมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังอย่างต่อเนื่องต่อไป จนกว่าเด็กสาวชิบ็อกทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัวและกลับมารวมกับครอบครัวของพวกเธอ” คำแถลงของสำนักประธานาธิบดีไนจีเรียบอก
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มีเด็กสาวที่ถูกลักพาตัวไปเหล่านี้จำนวน 21 คนได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระมาก่อนแล้วในข้อตกลงที่โบโกฮารัมทำกับฝ่ายรัฐบาล โดยที่มีคณะกรรมการกาชาดสากลเป็นคนกลางเช่นกัน ยังมีอีกบางคนที่สามารถหลบหนีหรือได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้ว แต่เชื่อกันว่าที่ถูกจับเอาไว้มีอยู่อีก 195 คน และหลังจากมีผู้ได้รับอิสรภาพเพิ่มขึ้นอีก 82 คนเช่นนี้ จึงยังเหลือผู้ที่ยังไม่ทราบชะตากรรมอีก 113 คน
ประธานาธิบดีบูฮารีแถลงในเดือนที่แล้วว่า รัฐบาลอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อให้มีการปล่อยตัวผู้ที่ยังถูกจับกุมอยู่ทั้งหมด
ถึงแม้เรื่องราวของเด็กสาวเมืองชิบ็อกจะเป็นกรณีซึ่งโด่งดังที่สุด แต่พวกโบโกฮารัมยังได้ลักพาตัวผู้คนทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ ไปอีกหลายพันคน จำนวนมากทีเดียวได้ถูกทอดทิ้งลืมเลือนไป
ขณะที่กองทัพสามารถช่วงชิงดินแดนคืนมาจากโบโกฮารัมได้เป็นจำนวนมาก ทว่ายังคงมีพื้นที่ขนาดใหญ่ในหลายๆ ส่วนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐบอร์โนยังคงเผชิญภัยคุกคามจากพวกนักรบติดอาวุธกลุ่มนี้อยู่ อันที่จริงแล้วเหตุการณ์โจมตีด้วยการใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายและการโจมตีด้วยอาวุธปืนในท้องที่แถบนี้ได้เพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ นับแต่ฤดูฝนสิ้นสุดลงตอนปลายปีที่แล้ว