เอเอฟพี - ไนต์คลับ “เดอะพัลส์” ในรัฐฟลอริดาซึ่งถูกมือปืนที่สวามิภักดิ์รัฐอิสลาม (ไอเอส) กราดยิงจนมีผู้เสียชีวิต 49 รายเมื่อปีที่แล้ว กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อรำลึกถึงผู้ที่จากไป และเป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้คนให้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เจ้าของสถานที่เผยเมื่อวานนี้ (4 พ.ค.)
บาร์บารา โปมา เจ้าของไนต์คลับซึ่งได้รับความนิยมจากชุมชนชาวสีม่วงในเมืองออร์แลนโด ระบุในงานแถลงข่าวว่า การก่อตั้งพิพิธภัณฑ์มีจุดประสงค์เพื่อปลอบประโลมญาติมิตรผู้ตาย ตลอดจนส่งเสริมความอดทนอดกลั้นในสังคมอเมริกัน
“ถึงเวลาแล้วที่ เดอะพัลส์ จะได้ทำประโยชน์ให้แก่ชุมชนอย่างถาวร” เธอกล่าว
“มันกลายเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว”
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ปี 2016 โอมาร์ มาทีน หนุ่มอเมริกันเชื้อสายอัฟกันซึ่งเกิดในรัฐนิวยอร์ก ได้ก่อเหตุสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ยุคหลัง 9/11 ที่ไนต์คลับแห่งนี้
มาทีน ใช้ปืนกึ่งอัตโนมัติ 2 กระบอกกราดยิงใส่นักเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเปอร์โตริโกเสียชีวิตไป 49 ราย บาดเจ็บอีก 68 คน ก่อนที่ตัวเขาเองจะถูกวิสามัญฯ โดยตำรวจซึ่งจู่โจมเข้าไปในอาคารเพื่อช่วยตัวประกัน
หนุ่มวัย 29 ปี ได้ประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มติดอาวุธไอเอส ก่อนจะลงมือก่อเหตุ
โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นทำให้ไนต์คลับแห่งนี้ต้องปิดตัวลง แต่ยังคงมีผู้คนแวะเวียนไปวางดอกไม้ จุดเทียนรำลึกถึงผู้เสียชีวิต หรือวางงานศิลปะไว้ที่ด้านนอกอาคารสีดำ
โปมา ระบุว่า มูลนิธิวันพัลส์ (OnePulse) ซึ่งเธอก่อตั้งขึ้นหลังเหตุกราดยิงจะทำหน้าที่บริหารจัดการพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ทว่ายังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวพิพิธภัณฑ์เอง
ทางมูลนิธิมีแผนที่จะขอการสนับสนุนจากครอบครัวผู้ตาย ผู้ที่รอดชีวิต ตำรวจ พนักงานดับเพลิง และบุคลากรการแพทย์ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ
