รอยเตอร์ - ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ที่นำโดยญี่ปุ่นมีความตั้งใจที่จะร่วมมือกับแผนการจัดสรรเงินทุนเพื่อการพัฒนาและแผนการโครงสร้างพื้นฐานของจีนภายใต้แนวคิด “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (One Belt, One Road) มากกว่าที่จะแข่งขันกัน ประธานธนาคารแห่งนี้ กล่าวในวันนี้ (4 พ.ค.)
ความคิดเห็นของทาเคฮิโกะ นากาโอะ ประธาน ADB มีขึ้นในช่วงเปิดการประชุมประจำปีนาน 4 วันของธนาคารแห่งนี้ในโยโกฮาม่าทางตะวันออกของญี่ปุ่น ซึ่งอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนคาดว่าจะเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญของการหารือ
ความคิดเห็นต่อสาธารณะชนของเขาสอดคล้องกับความคิดเห็นของผู้กำหนดนโยบายที่ต้องการขจัดแนวคิดที่ว่า ญี่ปุ่นและจีนกำลังแข่งขยายอิทธิพลผ่านการจัดสรรเงินทุนเพื่อการพัฒนา อย่างไรก็ตาม นากาโอะเตือนเหล่าเจ้าหนี้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของโครงการต่างๆ ในเศรษฐกิจที่เป็นเป้าหมายของแนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน
“มันเป็นความที่ดีที่จะเชื่อมโยงประเทศต่างๆ และส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ในภูมิภาค” นากาโอะ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ (4) เมื่อถูกถามเกี่ยวกับว่า ADB จะรับมืออย่างไรกับแนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
“เราสามารถร่วมมือกันได้เนื่องจากเรามีแนวคิดคล้ายกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าวเปิดกาประชุมประจำปี เขากล่าวเสริมว่า เขาได้หารือเรื่องความร่วมมือด้านต่างๆ กับ เสี่ยว เจี๋ย รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีนซึ่งจะเดินทางมายังกรุงดตเกียวเพื่อร่วมประชุมกับรัฐมนตรีกระทรวงการคลังจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันพรุ่งนี้ (5)
ผู้ว่าการธนาคารญี่ปุ่น ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ซึ่งเป็นประธาน ADB ก่อนหน้านากาโอะ กล่าวว่า มีที่ว่างมากพอสำหรับ AIIB ที่จะร่วมมือกับธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งอื่นๆอย่าง ADB และธนาคารโลก
“มีความจำเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐานมากมาย ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องดีที่จะมีสถาบันเพิ่มเติมขึ้นมาช่วยสนับสนุนเรื่องนี้” เขาบอกกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ (4) และเสริมว่า เขาไม่ได้คิดว่า AIIB แย่งบทบาทของ ADB และธนาคารโลก
ADB กำลังหลุดออกจากปีที่มีการกู้มากเป็นประวัติการณ์และเป็นผู้จัดหาเงินทุนเพื่อการพัฒนารายใหญ่ในภูมิภาค แต่การประชุมของพวกเขาอาจหมดความสำคัญไปอย่างรวดเร็วในขณะที่ความสนใจหันไปรวมกันอยู่ที่การประชุมซัมมิทหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางในวันที่ 14-15 พฤษภาคม
โครงการมากมายของแนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางได้รับการสนับสนุนจากธนาคารของทางการจีนและธนาคารเกิดใหม่ในภูมิภาคอย่าง ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ซึ่งอาจกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ ADB ที่มีสำนักงานใหญ่ในมานิลาแต่ยังคงเล็กมีขนาดเล็กกว่ามากในตอนนี้
นากาโอะกล่าวว่า ความต้องการเงินทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาลในเอเชียทำให้ ADB และ AIIB สามารถร่วมมือและเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ แทนที่จะมองว่าอีกฝ่ายเป็นคู่แข่ง
“เพราะว่าเรามีวัตถุประสงค์และรูปแบบของแนวคิดเกี่ยวกับการจัดการที่ต่างกัน ผมจึงคิดว่าเราสามารถเติมเต็มซึ่งกันและกันได้” เขากล่าว “มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราสามารถร่วมมือกันได้”
ADB และ AIIB เห็นพ้องที่จะจัดสรรเงินทุนร่วมกันในสามโครงการ สองโครงการเมื่อปีที่แล้วและหนึ่งโครงการในปีนี้ นากาโอะกล่าว
ธนาคารทั้งสองหารือกันถึงวิธีที่พวกเขาจะสามารถใช้สกุลเงินท้องถิ่นเพื่อการจัดสรรเงินทุนแทนเงินดอลลาร์ วิธีการที่พวกเขาจะสามารถพัฒนาความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่ของพวกเขา และวิธีที่พวกเขาจะสามารถรับประกันการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสังคม นากาโอะกล่าว
ADB ได้รับการก่อตั้งในฐานะโครงการริเริ่มของญี่ปุ่นเมื่อปี 1966 เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาในเอเชีย ผู้บริหารทั้งหมดของ ADB จนถึงตอนนี้ล้วนเป็นชาวญี่ปุ่นรวมถึงนากาโอะ