ผลสำรวจพบวัยรุ่นอาหรับไม่ชอบ “ทรัมป์” ชี้เป็นพวกต่อต้านมุสลิม

รอยเตอร์ - ผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันพุธ (3 พ.ค.) แสดงให้เห็นว่า เยาวชนชาวอาหรับส่วนใหญ่มองการชนะเลือกตั้งของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าเป็นปัจจัยที่ทรงอิทธิพลต่อภูมิภาคของพวกเขาในช่วง 5 ปีข้างหน้า ทั้งยังแสดงความกังวลเรื่องที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้เป็นพวกต่อต้านมุสลิม

ทรัมป์เคยลงนามในคำสั่งบริหารในเดือนมีนาคมให้ห้ามพลเมืองจาก 6 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง แต่คำสั่งดังกล่าวถูกยับยั้งไว้โดยศาลสหรัฐฯ

การสำรวจความคิดเห็นผู้มีอายุ 18-24 ปี ในชาติอาหรับ 16 ประเทศ ที่ทำทุกปีของ ASDA'A Burson-Marsteller ซึ่งเป็นบริษัทพีอาร์ในดูไบ พบว่า มีมากถึง 64 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเรื่องมุมมองที่มีต่อประธานาธิบดีทรัมป์นั้นมีความกังวล ไม่พอใจ และกลัว

มีมากถึง 83 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ชอบทรัมป์ ถือว่าห่างมากเมื่อเทียบกับผู้นำอเมริกาคนก่อนอย่างโอบามาที่มีคนไม่ชอบแค่ 52 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังเป็นสัดส่วนที่มากกว่า 77 เปอร์เซ็นต์ของ “จอร์จ ดับเบิลยู. บุช” ผู้สั่งบุกอิรักจนทำให้โลกอาหรับเกลียดเขา

ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์มองว่าทรัมป์เป็นพวกต่อต้านมุสลิม ขณะที่มีครึ่งหนึ่งบอกว่า การห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ ทำให้พวกกลุ่มติดอาวุธชักชวนวัยรุ่นมุสลิมไปเป็นพวกได้ง่ายขึ้น

ผู้ตอบแบบสอบถามยังได้ระบุเรื่องราคาน้ำมันเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อภูมิภาคของพวกเขาใน 5 ปีข้างหน้า ตามมาด้วยกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่เคยถูกมองว่าเป็นความท้าทายที่สุดในปีก่อน

การสำรวจครั้งนี้ดำเนินการสัมภาษณ์แบบพบหน้ากันซึ่งดำเนินการในหลายประเทศ มีตั้งแต่ โมร็อกโก อียิปต์ ไปจนถึงจอร์แดน และซาอุดีอาระเบีย