เอเจนซีส์ – คริสเทล วอลเลซ(Christel Wallac) นักช้อปชาวมะกันรัฐแอริโซนารายหนึ่งต้องช็อกสุดตัว หลังจากพบกระดาษเขียนข้อความภาษาจีนถูกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสตางค์แบบซิปที่ซื้อมาล่าสุดจากห้างวอลมาร์ทเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา เป็นจดหมายจากนักโทษชาวจีนนิรนามคนหนึ่งในเรือนจำเขตปกครองตนเอง กว่างซี ร้องขอความช่วยเหลือด่วน หลังถูกใช้ทำงานเยี่ยงทาสนานติดต่อกัน 14 ช.ม โดยไม่ให้หยุดพัก แถมถูกเฆี่ยนหากทำงานไม่เสร็จ ระบุการต้องเป็นนักโทษในจีนเลวร้ายกว่าการเป็นม้า วัว แกะ หมู หรือสุนัข ในสหรัฐฯ
สื่อการเมืองอเมริกา ฮัฟติงตันโพสต์ รายงานเมื่อวานนี้( 2 พ.ค) ว่า คริสเทล วอลเลซ(Christel Wallac) จากรัฐแอริโซนา เป็นผู้ค้นพบข้อความลึกลับภายในกระเป๋าสตางค์แบบซิปที่ถูกซื้อมาจากห้างวอลมาร์ทในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยอ้างอิงจากการรายงานของ สื่อแอริโซนา เดลี สตาร์ ระบุว่า หลังจากที่ลูกสะใภ้ของวอลเลซสามารถติดต่อหาล่ามแปลเอกสารจีนแล้วทำให้ นักช้อปชาวแอริโซนาผู้นี้รับรู้ว่า ข้อความภาษาจีนบนจดหมายที่อยู่ภายในกระเป๋าวอลมาร์ทใบใหม่ของเธอ เป็นจดหมายร้องขอความช่วยเหลือจากนักโทษจีนนิรนามรายหนึ่งในเรือนจำเขตปกครองตนเอง กว่างซี( Guangxi)
โดยเนื้อความระบุว่า นักโทษที่อยู่ในเรือนจำแห่งนี้ถูกบังคับให้ต้องทำงานอย่างหนักติดต่อกันนาน 14 ช.มในแต่ละวัน โดยไม่มีการให้หยุดพัก และจะได้รับการลงโทษเฆี่ยนตี หากว่านักโทษทำงานไม่เสร็จ และค่ารักษาพยาบาลจะถูกหักออกจากเงินค่าตอบแทนเล็กน้อยที่นักโทษเหล่านี้ได้รับ
โดยฮัฟติงตันโพสต์ที่ได้เห็นจดหมายข้อความนี้ และได้แปลข้อความที่มีส่วนหนึ่งระบุว่า “การเป็นนักโทษในจีนนั้นเลวร้ายกว่าการเป็นม้า วัว แกะ หมู หรือสุนัข ในสหรัฐฯ”
วอลเลซกล่าวแสดงความรู้สึกกับเดลี สตาร์ว่า “หัวใจของดิฉันตกลงตาตุ่มเมื่อเห็นข้อความเหล่านี้”
ด้านลอรา วอลเลซ( Laura Wallace )ลูกสะใภ้ของวอลเลซ กล่าวให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า จดหมายของนักโทษชาวจีนนั้นได้เปิดตาให้เธอได้เห็นสภาพของแรงงานที่ถูกใช้ผลิตสินค้าราคาถูก และทำให้เธอต้องการช่วยเหลือด้วยการเผยแพร่ข้อความเหล่านี้ออกไปให้สังคมได้รับรู้
“ดิฉันไม่มีช่องทางหรือการเข้าถึงใดๆ ดังนั้นดิฉันคิดว่า นี่เป็นหนทางตามความคิดของดิฉันในการที่จะช่วยได้” ลอรา วอลเลซกล่าวกับ KVOA สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นทูซอน (Tucson) และกล่าวต่อว่า “ดิฉันไม่ต้องการใช้สิ่งนี้ในการโจมตีร้านค้าใดๆ..ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่คำตอบ เพราะสิ่งนี้สามารถเกิดได้ทุกหนทุกแห่ง แต่ผู้คนไม่ได้รับรู้”
ฮัฟติงตันโพสต์รายงานว่า หลังจากที่สามารถติดต่อกับห้างวอลมาร์ทได้ในวันจันทร์(1 พ.ค)โฆษกของวอลมาร์ทได้ออกมาเรียกร้องขอให้วอลเลซเข้าติดต่อกับทางห้าง ***เพื่อที่ทางห้างจะสามารถพิสูจน์ว่าจดหมายข้อความภาษาจีนที่ถูกพบนั้นเป็นของจริงหรือไม่***
โดยในแถลงการณ์ของเรแกน ดิกเคนส์( Ragan Dickens) ผู้อำนวยการสัมพันธ์ระดับประเทศของทางห้างวอลมาร์ทกล่าวว่า “ทางเราให้ความใส่ใจต่อสินค้าของทางห้างนั้นมีแห่งที่มาซึ่งมีความรับผิดชอบและน่าเชื่อถือ และทางเราให้ความใส่ใจต่อเหตุเช่นนี้อย่างจริงจัง” แต่อย่างไรก็ตามในแถลงการณระบุว่า “แต่ทว่าในขณะนี้ทางเรามีข้อมูลจำกัด ทำให้เป็นการยากในการพิสูจน์ถึงความจริงแท้ของจดหมายที่ถูกพบ”
สื่อการเมืองสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า อ้างอิงจากเว็บไซต์ของวอลมาร์ทระบุว่า ซัพพลายเออร์ผลิตสินค้าป้อนวอลมาร์ทนั้นถูกจำกัดในด้านการใช้แรงงานเกินระยะเวลาตามมาตรฐานทั่วไป รวมไปถึงห้ามการใช้แรงงานทาส หรือการใช้แรงงานโดยไม่จ่ายค่าตอบแทน
ทั้งนี้พบว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกค้าชาวสหรัฐฯค้นพบจดหมายร้องขอความช่วยเหลือจากแรงงานที่ผลิตสินค้าถูกส่งเข้ามาขายในอเมริกา โดยพบว่าก่อนหน้านี้เหตุการณ์ในลักษนะนี้เกิดกับห้างเคมาร์ และสินค้าจากห้างระดับไฮเอนด์ แซ็คส์ ฟิฟต์ อเวนิว(Saks Fifth Avenue)
ในตอนท้ายของรายงาน ฮัฟติงตันโพสต์ได้รายงานข้อความฉบับเต็มของจดหมายร้องขอความช่วยเหลือจากเรือนจำกว่างซีดังนี้ “บรรดานักโทษในเรือนจำยิงชาน( Yingshan) เขตปกครองตนเองกว่างซี ของจีน ต่างต้องทำงาน 14 ช.ม ในแต่ละวัน โดยไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดพักเบรก หรือพักในช่วงกลางวัน และยังคงต้องทำงานนอกเหนือเวลางานปกติไปจนถึงเที่ยงคืน และใครก็ตามที่ไม่สามารถทำงานได้สร็จตามกำหนดจะต้องถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนตี นอกจากนี้อาหารที่ได้รับนั้นยังปราศจากน้ำมันและเกลือ ซึ่งทุกเดือน เจ้านายจะจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับนักโทษประจำเดือนราว 2000 หยวน (290 ดอลลาร์) และอาหารที่มีนอกเหนือจากนี้จะถูกจัดการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหากนักโทษเจ็บป่วยและต้องการยารักษาโรค ค่าใช้จ่ายจะถูกหักออกจากเงินเดือนค่าตอบแทน การเป็นนักโทษในจีนนั้นเลวร้ายกว่าการเป็นม้า วัว แกะ หมู หรือสุนัข ในสหรัฐฯ”
