รอยเตอร์/อาร์ทีนิวส์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เมื่อวันอังคาร (2 พ.ค.) ต่อสายตรงพูดคุยกันทางโทรศัพท์กันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วอชิงตันยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กถล่มซีเรีย ซึ่งกระพือความตึงเครียดระหว่างสองชาติ โดยหารือกันถึงแนวทางยุติความรุนแรงในซีเรีย ในนั้นรวมถึงจัดตั้งเขตปลอดภัย (safe zone) เช่นเดียวกับประเด็นความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่าผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่า “ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อยุติความรุนแรงในซีเรีย” นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์และปูติน ยังได้หารือกันถึงการร่วมมือกันจัดการกับพวกนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ทั่วตะวันออกกลาง
“การสนทนาเป็นไปด้วยดี และในนั้นได้มีการหารือเกี่ยวกับเซฟโซนหรือโซนลดความขัดแย้ง สำหรับบรรลุเป้าหมายสันติภาพอันยั่งยืน เพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรมและอื่นๆ” ถ้อยแถลงของทำเนียบขาวระบุ
การพูดคุยทางโทรศัพท์ครั้งนี้มีขึ้นราว 1 เดือน หลังจาก ทรัมป์ ตัดสินใจยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ก 59 ลูก ถล่มฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งในซีเรียเมื่อวันที่ 4 เมษายน เพื่อตอบโต้เหตุโจมตีพลเมืองซีเรียด้วยอาวุธเคมี ความเคลื่อนไหวที่กระพือความขุ่นเคืองจากรัสเซีย และนำไปสู่การโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนระหว่างสองรัฐบาล
ถ้อยแถลงของทำเนียบขาวระบุว่าวอชิงตันจะส่งผู้แทนเข้าร่วมโต๊ะเจรจาหยุดยิงซีเรียในอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน ในวันพุธ (3 พ.ค.) และพฤหัสบดี (4 พ.ค.) ด้วย “พวกเขาหารือเกี่ยวกับแนวทางทำงานร่วมกันต่างๆ นานาในการกำจัดก่อการร้ายทั่วตะวันออกกลาง ท้ายที่สุกแล้ว พวกเขายังได้พูดคุยกันว่าอะไรคือแนวทางดีที่สุดสำหรับแก้ปัญหาสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่งในเกาหลีเหนือ”
ด้านโฆษกของวังเครมลินระบุคล้ายกันว่า ปูตินและทรัมป์ เห็นพ้องต้องกันทางโทรศัพท์ เกี่ยวกับความร่วมมือส่งเสริมกระบวนการทางการทูตสำหรับจัดการกับสถานการณ์ความตึงเครียดทั้งในคาบสมุทรเกาหลีและซีเรีย
“ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เรียกร้องให้อดทนอดกลั้นและลดระดับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี” ถ้อยแถลงระบุ “มีความเห็นพ้องต้องกันต่อการทำงานร่วมหาทางออกด้านการทูตที่จะยุติวิกฤตนี้”