รอยเตอร์ - เกาหลีเหนือเตือนอเมริกากำลังผลักดันให้คาบสมุทรเกาหลีเข้าสู่เงื้อมเงาสงครามนิวเคลียร์ หลังจากเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ได้บินจากกวมไปร่วมซ้อมรบกับกองทัพอากาศเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ (1 พ.ค.) ด้านผู้นำสหรัฐฯ เผยพร้อมคุยกับ "คิม จองอึน" หากสถานการณ์เหมาะสม ส่งผลให้มีการวิจารณ์เซ็งแซ่ กระทั่งโฆษกทำเนียบขาวต้องออกมาแก้ต่างว่า เปียงยางต้องดำเนินการบางอย่างก่อน และการพบกันคงไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ววัน
มุน ซัง-กยุน โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า การซ้อมรบมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการยั่วยุของเปียงยาง และทดสอบความพร้อมในการรับมือแนวโน้มการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่ของโสมแดง ส่วนทางด้านกองทัพอากาศสหรัฐฯ แถลงว่า ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดจากกวมไปซ้อมรบร่วมกับกองทัพอากาศเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
ในวันอังคาร (2) สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือออกโรงวิจารณ์ว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดของอเมริกาทำการฝึกซ้อมทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ใส่เป้าหมายสำคัญในดินแดนโสมแดง ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และพวกกระหายสงครามอื่นๆ ในอเมริกา ร้องแรกแหกกระเชอให้โจมตีเกาหลีเหนือก่อนด้วยนิวเคลียร์
“การยั่วยุทางทหารอย่างไม่ยั้งคิดกำลังผลักดันให้คาบสมุทรเกาหลีเข้าใกล้เงื้อมเงาแห่งสงครามนิวเคลียร์มากขึ้น” เคซีเอ็นเอย้ำ
ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงชัดเจนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความกังวลว่า เปียงยางอาจทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เพื่อท้าทายการกดดันจากอเมริกาและพันธมิตรหนึ่งเดียวของตนเองคือจีน
ในบทบรรณาธิการเมื่อคืนวันจันทร์ของหนังสือพิมพ์โกลบัล ไทมส์ แท็บลอยด์ที่ทางการปักกิ่งสนับสนุนแต่ไม่ได้สะท้อนนโยบายแห่งชาติของจีนเสมอไปนั้น ระบุว่า อเมริกาไม่ควรพึ่งพิงจีนฝ่ายเดียวในการกดดันให้เกาหลีเหนือละทิ้งความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์
โกลบัล ไทมส์เสริมว่า เดือนเมษายนเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แต่วอชิงตันต้องทุ่มเทความพยายามต่อไปเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้
ทั้งนี้ นานาชาติต่างหวาดเกรงว่า เกาหลีเหนือจะทดสอบนิวเคลียร์ในช่วงวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดคิม อิง ซุง ผู้ก่อตั้งประเทศ หรือวันที่ 25 ที่ผ่านมาเพื่อฉลองวาระครบรอบ 85 ปีการก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลี เนื่องจากที่ผ่านมาเปียงยางมักทดสอบนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธในวาระสำคัญต่างๆ
แต่เปียงยางกลับจัดพิธีสวนสนามประจำปีและขนขีปนาวุธออกมาโชว์แทนในวันที่ 15 และจัดการซ้อมรบขนาดใหญ่โดยใช้กระสุนปืนใหญ่จริงใน 10 วันต่อมา ก่อนที่จะทดสอบนิวเคลียร์เมื่อวันเสาร์ (29 เม.ย.) แต่ล้มเหลว ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวครั้งที่ 4 นับจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้นับจากต้นปีที่แล้ว โสมแดงได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์ 2 ครั้งและกิจกรรมเกี่ยวกับขีปนาวุธ อีกหลายครั้ง
ฮวาง คโย-อัน รักษาการณ์ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรียกร้องให้กระทรวงต่างประเทศและความมั่นคงเฝ้าระวังเข้มงวดขึ้น เนื่องจากเกาหลีเหนือที่ยากจนและโดดเดี่ยวยังคงยั่วยุไม่เลิก รวมทั้งสนับสนุนการเป็นพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้-อเมริกา และส่งเสริมความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนในการกดดันเปียงยาง
ด้านทรัมป์กล่าวที่วอชิงตันเมื่อวันจันทร์ว่า จะเป็นเกียรติอย่างมากหากได้พบ "คิม จองอึน" ผู้นำเกาหลีเหนือภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสม ซึ่งเขาไม่ได้แจกแจงว่า สถานการณ์ที่ว่าหมายถึงอย่างไรหรือจะมีการพบกันเมื่อใด
อย่างไรก็ตาม การแสดงความคิดเห็นนี้เรียกเสียงวิจารณ์สนั่นในวอชิงตัน ถึงขนาดโฆษกทำเนียบขาว "ฌอน สไปเซอร์" ต้องออกมาแก้ต่างว่า เกาหลีเหนือจะต้องดำเนินการบางอย่างก่อน ถึงจะมีการพิจารณาเรื่องการพบกัน ซึ่งชัดเจนว่าคงไม่เกิดขึ้นในขณะนี้หรือในอนาคตอันใกล้
ทั้งนี้ ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์เพิ่งเตือนว่า อาจมีความขัดแย้งใหญ่หลวงรุนแรงกับเกาหลีเหนือ ขณะที่จีนระบุว่า สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีอาจลุกลามจนเกินความควบคุม
อเมริกายังแสดงพลังเพื่อปรามเกาหลีเหนือ ด้วยการส่งกองเรือจู่โจมที่นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบิน "ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน" ไปยังคาบสมุทรเกาหลี เพื่อร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันเพิ่งเปิดเผยว่า ระบบต่อต้านขีปนาวุธขั้นสูง THAAD ในเกาหลีใต้สามารถใช้งานในเบื้องต้นได้แล้ว แต่อาจต้องรออีกหลายเดือนกว่าจะใช้งานได้อย่างสมบูรณ์