รอยเตอร์ - รัฐบาลออสเตรเลียประกาศสานต่อโครงการก่อสร้างสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 ที่นครซิดนีย์ ซึ่งจะใช้งบประมาณราว 5,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากผู้บริหารสนามบินนานาชาติแห่งเดียวในปัจจุบันปฏิเสธที่จะรับสัมปทาน
การตัดสินใจของรัฐบาลแดนจิงโจ้มีขึ้นหลังจากที่โครงการนี้เป็นข้อถกเถียงค้างคากันมาหลายสิบปี ขณะที่สนามบิน คิงส์ฟอร์ด สมิธ ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลทางตะวันออกก็เริ่มมีสภาพแออัด ไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้โดยสาร
นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ ระบุว่า โครงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่ย่านแบดเจอรีส์ครีก (Badgerys Creek) ทางฝั่งตะวันตกของนครซิดนีย์ มีความสำคัญต่อประเทศ และเฉพาะในช่วงก่อสร้างก็คาดว่าจะเพิ่มเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจได้มากกว่า 1,900 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
สนามบินแห่งใหม่มีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2026
บริษัท ซิดนีย์ แอร์พอร์ต โฮลดิงส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารสนามบิน คิงส์ฟอร์ด สมิธ สละสิทธิ์ที่จะรับสัมปทานโครงการนี้ ซึ่งอาจทำให้บริษัทสูญเสียสถานะการผูกขาดสนามบินนานาชาติภายในอีก 10 ปีข้างหน้า
เคอร์รี มาเธอร์ ซีอีโอของซิดนีย์ แอร์พอร์ต ระบุในถ้อยแถลงวันนี้ (2 พ.ค.) ว่า บริษัทเคารพการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นที่เห็นว่าไม่ควรรับข้อเสนอภายใต้เงื่อนไขปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลจะไม่มีการมอบเงินอุดหนุนใดๆ
รัฐบาลออสเตรเลียคาดว่า สนามบินแห่งใหม่จะช่วยกระตุ้นยอดผู้โดยสารที่เดินทางมายังซิดนีย์ให้เพิ่มขึ้นอีกราว 1 ใน 4 หรือ 10 ล้านคนต่อปี ภายใน 5-10 ปีหลังจากเปิดใช้งาน
นายกฯ เทิร์นบูลล์ ระบุว่า รายละเอียดโครงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่จะแจ้งให้ทราบระหว่างการแถลงงบประมาณในสัปดาห์หน้า