xs
xsm
sm
md
lg

InClip : มีเหนื่อยยาว “ผู้นำชาติสมาชิกอียู” ใช้เวลาแค่ 4 นาทีออกมติวาระพิเศษ “ไม่เจรจา BREXIT กับอังกฤษ” จนกว่าลอนดอนจะคุ้มกัน “สถานะฉุกเฉินพลเมืองยุโรป”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) มติที่ประชุมวาระพิเศษระดับผู้นำสมาชิกชาติอียูในเวลาด่วนแค่ 4 นาทีกลางกรุงบรัสเซลส์ออกมายืนยัน สหภาพยุโรปจะไม่เริ่มเคลื่อนไหวเจรจาการค้า BREXIT จนกว่าทางลอนดอนจะให้หลักประกันแท้จริง และจริงจังต่อสถานภาพพลเมืองชาติสมาชิกอียูที่อาศัยและศึกษาอยู่ภายในอังกฤษ

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) ว่า สหภาพยุโรปได้ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีหญิง เทเรซา เมย์ ให้หลักประกันอย่างเร่งด่วนและจริงจังกับสถานภาพของพลเมืองชาติสมาชิกอียูที่ยังคงอาศัยอยู่ภายในอังกฤษ ในการประชุมวาระพิเศษกลางกรุงบรัสเซลส์วันเสาร์(29 เม.ย) ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่า บรรดาผู้นำชาติสมาชิกใช้เวลาแค่ 4 นาทีเท่านั้นในการลงมติ แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของสหภาพยุโรปที่จะไม่ประนีประนอมในการเจรจา BREXIT กับอังกฤษ

โดยบรรดาผู้นำยุโรปต่างออกมายืนยันว่า พวกเขาและเธอจะไม่เจรจาจนกว่า ****จะเห็นความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม*** จากอังกฤษในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายลาออก BREXIT ของอังกฤษที่คาดว่ามีมูลค่าราว 60 พันล้านปอนด์ รวมไปถึงสิทธิของพลเมืองยุโรปในอังกฤษ และปัญหาพรมแดนในไอร์แลนด์

ด้าน ฌอง-โคลด จุงเกอร์ (Jean-Claude Juncker) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้กล่าวกับนักข่าวในวาระการประชุมพิเศษในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมนี้ว่า ปัญหาสิทธิของพลเมืองยุโรปในอังกฤษถือเป็นปัญหาแรกที่ทางอียูให้ความสนใจ และเขาได้หารือถึงความจำเป็นของทางอังกฤษในการที่ต้องทำตามต่อปัญหาสิทธิพลเมืองชาติสมาชิกอียู ในช่วงระหว่างสนทนาและทานอาหารค่ำร่วมกับนายกรัฐมนตรีหญิงอังกฤษ เทเรซา เมย์ เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ทางเราได้จัดเตรียมเอกสารไว้เป็นที่เรียบร้อยที่สามารถจะนำออกมาบังคับใช้ได้ทันทีหากว่า อังกฤษเพื่อนของเรามีความพร้อมในการลงนาม แต่คงจะไม่เกิดขึ้น” ยุงเกอร์กล่าวในการแถลงข่าว และเสริมต่อว่า มีความยากลำบากพื้นฐานเกิดขึ้นบางส่วนของสถานการณ์ในกรุงลอนดอน

ยุงเกอร์ชี้ว่า “ผมมีความเข้าใจบางครั้งว่า เพื่อนอังกฤษของเรา ที่ไม่ใช่ทั้งหมด ประเมินความยากลำบากที่ทางเรากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นต่ำเกินไป” และยังเสริมต่อว่า เมย์ได้กล่าวต่อเขาว่า ต่อทุกข้อคำถามของเขาสำหรับอนาคตนั้น “ขอให้อดทนและคาดหวังไว้”

ในขณะที่ โดนัลด์ ทัสค์ ประธานสหภาพยุโรป แถลงเพิ่มเติมว่า “สำหรับในเวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเราได้ยินจากอังกฤษเพื่อนของเรา และรวมไปถึงในช่วงเวลาที่ผมได้ไปเยือนกรุงลอนดอน ที่ว่าพวกเขามีความพร้อมแล้วในการตกลงต่อปัญหานี้อย่างรวดเร็วที่สุด”

โดยทัสค์ย้ำว่า “ผมอยากจะขอบอกให้ชัดลงไปเลยว่า ทางเราต้องการหลักประกันอย่างแท้จริงให้กับพลเมืองยุโรปของเราที่ทำงาน และศึกษาอยู่ในอังกฤษ และในทางเดียวกันต่อพลเมืองอังกฤษเอง ซึ่งทางคณะกรรมาธิการยุโรปได้จัดทำรายละเอียดลิสต์ถึงสิทธิและผลประโยชน์ของพลเมืองชาติสมาชิกยุโรปที่ทางเราต้องการให้มีการให้มีการประกันต่อคนเหล่านี้ที่ได้รับผลกระทบจากการลาออกจากการเป็นสมาชิกภาพของอังกฤษ (BREXIT) และเพื่อให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างชัดเจน ทางเราต้องการความร่วมมืออย่างจริงจังจากอังกฤษ”

ด้านนายกรัฐมนตรีหญิงเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ให้ความเห็นต่อการเจรจาการค้า BREXIT ว่าเธอเกรงว่า อาจจะมีความไม่เข้าใจบางประการเกิดขึ้นเกี่ยวกับการตัดสินใจของอียู ที่จะเจรจาทางการค้ากับอังกฤษ ก็ต่อเมื่อปัญหาต่างๆ เหล่านั้นได้รับการแก้ไขแล้วเท่านั้น

นอกจากนี้ ในการให้ความเห็นถึงคำประกาศของเมย์ต่อการเลือกตั้งทั่วไปอังกฤษ เดอะการ์เดียนชี้ว่า แมร์เคิลไม่เห็นตรงกับผู้นำหญิงอังกฤษที่ออกมาอ้างว่า ชัยชนะแบบถล่มทะลายในการเลือกตั้งอังกฤษครั้งใหม่จะช่วยทำให้อังกฤษและเธอมีสถานภาพทางการเจรจาดีขึ้นในการต่อรองทางการค้ากับสหภาพยุโรป ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ถึงแม้ว่าแมร์เคิลจะยินดีในการที่เมย์ออกมาประกาศกำหนดวันเลือกตั้งครั้งใหม่ก็ตาม

ความเห็นนี้ยังสอดคล้องกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวร์ ออลลองด์ ที่ในขณะนี้อยู่ในสัปดาห์สุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง โดยเขากล่าวแสดงความไม่เชื่อในคำกล่าวอ้างของเมย์เช่นกัน โดยให้ความเห็นว่า “เนื่องจากพื้นฐาน และหลักการแล้ว เป้าหมายนั้นยังถูกทำให้ชัดเจนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีแนวทางที่จะถูกเลือกโดยตัวแทนผู้เจรจา และจะไม่มีทางเลือกอื่นได้อีก”

เดอะการ์เดียนรายงานต่อว่า ในที่ประชุมวาระพิเศษระดับผู้นำชาติสมาชิก ยังมีการยอมสนับสนุนด้วยว่า ประชาชนชาวไอร์แลนด์เหนือมีมติโหวตเห็นด้วยในประชามติเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของชาวไอริชเหนือ (United Ireland declaration) จะถือเป็นประชามติที่จะช่วยเปิดทางให้ไอร์แลนด์เหนือกลับเข้าสู่ความเป็นสมาชิกของอียูได้อีกครั้ง

จากผลโพลส่วนใหญ่ล่าสุดออกมาชี้ว่า พลเมืองไอร์แลนด์เหนือส่วนใหญ่ยังคงต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น