เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - สื่ออังกฤษรายงานล่าสุด ประธานาธิบดี ทรัมป์ ใช้แคมเปญอันธพาล ปราศรัยท่ามกลางผู้สนับสนุนในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันเสาร์ (29 เม.ย) โจมตีสื่ออมวลชนสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง พร้อมสัญญาสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก เหมือนกลับไปสู่โหมดหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปีที่ผ่านมา แถมส่งสัญญาณให้คนทั่วประเทศรับทราบในวันครบรอบ 100 วันของการเข้ารับตำแหน่งว่า งานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวฟรีสปีช ที่มีขึ้นเวลาเดียวกันนั้น “น่าเบื่อ..มาก”
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน รายงานวันนี้ (30 เม.ย.) ถึงการแถลงครบรอบ 100 วัน การทำหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงท่าทีอันธพาลและดุดันบนเวทีไม่เปลี่ยนในเมืองฮาริสเบิร์ก (Harrisburg) เมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) แสดงที่สื่อไปได้ว่า ผู้นำสหรัฐฯยังคงติดอยู่ในโหมดการหาเสียงไม่เปลี่ยน
โดยบนเวที สื่ออังกฤษชี้ ทรัมป์ยังคงโจมตีสื่อมวลชนอเมริกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯประกาศบอยคอตไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวประจำปีที่ถูกจัดขึ้นในค่ำวันเดียวกันวานนี้ (29 เม.ย.)
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐฯได้เปิดเผยถึงสาเหตุไม่เข้าร่วม ว่า สื่อมลชนสหรัฐฯไม่มีความเป็นธรรมกับเขาในการรายงานข่าว ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่ไม่สมควรในสายตาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการต้องเข้าร่วม ซึ่งในปีนี้มีการเชิญนักเสียดสีทางการเมืองชื่อดังของอเมริกาซึ่งเป็นอเมริกันมุสลิม คีย์สปีกเกอร์ของงาน ฮาซาน มานาจ (Hasan Minhaj)
ในการขึ้นกล่าวของมินฮัจ เขาได้ยืนยันกับบรรดาผู้สื่อข่าวทำเนียบขาว จากการรายงานของ CNN สื่อสหรัฐฯ ถึงการไม่มาปรากฏตัวของโดนัลด์ ทรัมป์ ในค่ำคืนนั้น ว่า “ตอนนี้พวกคุณรู้แล้วว่า มีความรู้สึกเช่นไร เมื่อเป็นชนคนกลุ่มน้อยในอเมริกัน” เรียกเสียงฮาไปทั่วทั้งงาน
อย่างไรก็ตาม บนเวทีประกาศครบรอบ 100 วันในรัฐเพนซิลเวเนีย ที่มีประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคก่อตั้งประเทศ เดอะการ์เดียนชี้ว่า นอกเหนือจากที่ผู้นำสหรัฐฯจะโจมตีสื่อมวลชนแล้ว ทรัมป์ยังคงประกาศให้สัญญาสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโกอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นที่ทราบดีว่า ในการเสนอของบประมาณจากสภาคองเกรสล่าสุดนั้น ไม่มีการนำงบประมาณสร้างกำแพงเข้าร่วมอยู่ด้วย
และบนเวที ทรัมป์ยังให้คำมั่นที่จะทำลายกลุ่มก่อการร้าย IS กำจัดน้ำครำทางการเมืองสหรัฐฯ และการสร้างกองทัพอเมริกาขึ้นมาใหม่ให้แข็งแกร่งอีกครั้ง
ท่ามกลางเสียงเชียร์ล้นหลามจากผู้สนับสนุน ประกาศก้อง “ยูเอสเอ ยูเอสเอ” ผู้นำสหรัฐฯยังให้สัญญาต่อพวกเขา ที่จะปกป้องระบบการประกันสุขภาพถ้วนหน้าอเมริกาไว้ด้วยการทำให้ระบบโอบามาแคร์ของพรรคเดโมแครตต้องถูกล้มไป
โดยในเริ่มต้นการปราศรัยบนเวที ผู้นำสหรัฐฯประกาศกับฝูงชนว่า “งานเลี้ยงกาลาดินเน่อร์ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวนั้นน่า...เบื่อมาก”
และกล่าวต่อว่า “และในขณะนี้มีการรวมตัวของนักแสดงฮอลลีวูดจำนวนมาก และฝูงนักข่าวดีซี ที่ต่างกำลังปลอบประโลมซึ่งกันและกัน ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง กลางเมืองหลวงของพวกเราในเวลานี้” ผู้นำสหรัฐฯกล่าว และกล่าวต่อว่า “ผมคงจะไม่สามารถที่จะตื่นเต้นมากไปกว่านี้ ที่จะสามารถหนีออกมาไกลกว่า 100 ไมล์จากน้ำครำวอชิงตันได้ มาอยู่ท่ามกลางพวกคุณในค่ำคืนนี้แทน ที่มีคนเยอะกว่ามาก และผู้คนดีกว่ามาก”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า จากการที่ทรัมป์ปรากฏตัวในเมืองฮารีสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เขาได้ทำลายสถิติ กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกที่ไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงนักข่าวทำเนียบขาว นับตั้งแต่ประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน ในปี 1981 ซึ่งในขณะนั้นเรแกนเกิดปัญหาจากการพยายามถูกลอบสังหาร
โดยในการปราศรัยที่ห่างออกไปจากกรุงวอชิงตัน ทรัมป์ยังปราศรัยโจมตีสื่ออเมริกาอย่างต่อเนื่องโดยประกาศว่า “พวกเขาอยู่ในงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์นักข่าวประจำทำเนียบขาวโดยไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ”
ซึ่งพบว่าฝูงชนผู้สนับสนุนทรัมป์ส่งเสียงโห่ทุกครั้งที่ทรัมป์เอ่ยถึงสื่อมวลชน และเมื่อผู้นำสหรัฐฯประกาศว่า สื่อ CNN และ MSNBC นั้นเป็นพวก “เฟคนิวส์” หรือพวกข่าวปลอม โดยในคำปราศรัยที่ดูเหมือนถอยหลังมากกว่าจะเป็นการเดินหน้า เดอะการ์เดียนชี้ ในกาที่จะประกาศวาระ ทรัมป์ชี้ว่า สื่อมวลชนอเมริกาจะต้องได้เกรดตัวอ้วนที่ต่ำที่สุดในการรายงานข่าวการครบรอบ 100 วันของการเข้าทำหน้าประธานาธิบดีสหรัฐฯของเขา แต่ในทางตรงกันข้าม ทรัมป์ชี้ต่อ โดยประกาศว่า ต่างจากชุดรัฐบาลของเขาที่กระตือรือร้นและมีผลงานสุดๆ และตัวเขาแสดงผลงานออกมารายวัน
โดยทรัมป์ตอกย้ำว่า “เราทำตามสัญญาที่ให้ไว้อย่างต่อเนื่อง และในความเป็นจริงแล้ว ผู้คนต่างมีความสุขมากในเรื่องนี้”
บนเวทีรัฐเพนซิลเวเนีย ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังได้กล่าวไปถึงผลงานที่เขาและรัฐบาลสหรัฐฯได้ทำมานับตั้งแต่วันแรกของการเข้าทำงาน รวมไปถึง การยืนยันแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงสหรัฐฯ เนล กอร์ซัช (Neil Gorsuch) แทนคนเดิมที่เสียชีวิต การยกเลิกกฎหมายและมาตรการที่ออกมาควบคุมด้านสิ่งแวดล้อมและธุรกิจ
บนเวทีประกาศชัยชนะครบ 100 วันของการเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์ยังได้ใช้โอกาส กล่าวไปถึงความสำเร็จของเขาในความสำเร็จการอนุมัติโครงการท่อส่งน้ำมันอื้อฉาวด้านสิ่งแวดล้อม คีย์สโตนไปไลน์ (Keystone XL) และ ดาโกตาแอ็กเซส (Dakota Access) ซึ่งถูกหยุดไปตั้งแต่สมัยโอบามา
ผลงานการอนุมัติยังรวมไปถึง คำสั่งประธานาธิบดีช็อกโลก การดึงสหรัฐฯออกมาจากข้อตกลงการค้าเสรีรอบมหาสมุทรแปซิฟิก TPP ที่เกิดขึ้นมาจากแนวความคิดของโอบามา พรรคเดโมแครต และทำให้ระบบมาตรการด้านความมั่นคงทางพรมแดนสหรัฐฯเข้มงวดมากขึ้น โดยบนเวทีปราศรัย ผู้นำสหรัฐฯอ้างว่า ส่งผลทำให้มีตัวเลขความผิดข้ามพรมแดนทางใต้ของอเมริกาลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน ชี้ว่า ทรัมป์เลือกที่จะเพิกเฉยต่อผลงานที่ล้มเหลวของตัวเอง โครงการประกันสุขภาพโอบามาแคร์นั้นยังไม่ถูกยกเลิก และยังไม่สามารถนำแผนประกันสุขภาพทรัมป์แคร์ ที่มีประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พอล ไรอัน เป็นตัวตั้งตัวตีนำมาใช้แทน รวมไปถึง โครงการรสร้างพรมแดนกั้นเม็กซิโกของทรัมป์ที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง
นอกจากนี้ ในผลงานครบรอบ 100 วัน การประกาศห้ามการเดินทางของพลเมืองชาติมุสลิมเข้าสหรัฐฯ ยังรวมอยู่ในนี้
บนเวทีปราศรัย ทรัมป์ประกาศว่า “พวกเราจะสร้างกำแพงแน่นอน ไม่ต้องกลัว”
ทั้งนี้ พบว่า มีผู้ประท้วงรายหนึ่งสามารถหลุดเข้ามาได้ภายในพื้นที่จัดงานครบรอบ 100 วันสำเร็จ พบว่ามีผู้ประท้วงรายหนึ่งโบกธงชาติรัสเซีย และถูกตำรวจในงานนำตัวออกไปอย่างรวดเร็วจากสนามสเตเดียมที่จัดงาน ซึ่งทำให้ทรัมป์ประกาศเชียร์ผ่านไมโครโฟนว่า “ใช่แล้ว ใช่แล้ว นำตัวพวกเขาออกไป”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ทรัมป์ยังคงนำบรรยากาศเก่าๆของการอยู่บนเวทีหาเสียงมาใช้ รวมไปถึงการอ้างกลอนของอัล วิลสัน (AI Wilson) ที่มีชื่อบทกลอนว่า “งู” อยู่ด้วยในการยืนยันจุดยืนของการที่จะให้พวกอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายต้องออกนอกประเทศ และความสำคัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รักษากฎหมาย
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปบนเวทีครบรอบ 100 วัน สื่ออังกฤษกล่าว คือ การพูดถึงในแง่บวกถึงปักกิ่ง จากชาติที่คอยปั่นค่าสกุลเงินหยวนของตัวเอง มาเป็นมหามิตรที่จะยืนหยัดเคียงข้างอเมริกาในการจัดการเกาหลีเหนือ โดยผู้นำสหรัฐฯกล่าวยอมรับว่า “ผมไม่คิดว่า ในขณะนี้จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเรียกจีนว่าเป็นพวกปั่นค่าเงิน”
ในการสิ้นสุดคำปราศรัยครบรอบ 100 วันของการเข้ารับตำแหน่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า “เราจะทำให้อเมริกากลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เราจะทำให้อเมริการ่ำรวยอีกครั้ง เราจะทำให้อเมริการุ่งเรืองอีกครั้ง เราจะทำให้อเมริกากลับมาปลอดภัยอีกครั้ง และเราจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”
และเป็นอีกครั้งสำหรับบรรยากาศเวทีปราศรัยหาเสียงแบบทรัมป์ๆ เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษชี้ว่า ผู้นำสหรัฐฯได้เปิดเพลงของวงโรลลิงสโตน ชื่อ “คุณไม่สามารถได้ทุกสิ่งที่คุณต้องการเสมอ” (You Can’t Always Get What You What) ปิดท้ายกลายๆ
โดยเจฟ เซเลนี(Jeff Zeleny) จากสื่อ CNN ของสหรัฐฯระบุว่า “คำปราศรัยของทรัมป์นั้นเป็นเหมือนนำการหาเสียงกลับมาอีกครั้ง”
