xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัมป์” เตือนเป็นไปได้ที่จะขัดแย้งครั้งใหญ่กับ ‘เกาหลีเหนือ’ ขณะที่ ‘จีน’ ชี้สถานการณ์อาจบานปลายจนคุมไม่อยู่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ภาพที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2017 โดยสำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือโดยไม่ได้ระบุวันที่ถ่าย แสดงให้เห็น คิม จองอึน ผู้นำโสมแดง กำลังตรวจแถวทหารระหว่างเข้าร่วมการแข่งขันของกองทหารปฏิบัติการพิเศษเกาหลีเหนือ  ทั้งนี้ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีกำลังเพิ่มทวี  โดยที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯเตือนว่า เป็นไปได้ที่จะเกิด “ความขัดแย้งครั้งใหญ่” กับโสมแดง </i>
รอยเตอร์/MGR ออนไลน์ - “สหรัฐฯ” กับ “จีน” ประสานเสียงตักเตือน “เกาหลีเหนือ” วิกฤตอาจบานปลายใหญ่โต โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการขัดแย้งต่อสู้กันครั้งใหญ่สืบเนื่องจากโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของโสมแดง ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศแดนมังกรกล่าวว่าสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีอาจไต่ระดับร้อนแรงขึ้นไปอีก หรือบานปลายจนควบคุมไม่อยู่

ทรัมป์ซึ่งกล่าวในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) บอกว่า เขาต้องการที่จะแก้ไขคลี่คลายวิกฤตการณ์คราวนี้อย่างสันติวิธี โดยผ่านการใช้มาตรการลงโทษคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ถึงแม้ทางเลือกในการใช้กำลังทหารก็ยังคงอยู่ในการพิจารณาที่อาจนำมาใช้ได้

“มีโอกาสที่เราอาจจะจบลงด้วยการมีความขัดแย้งต่อสู้กันครั้งใหญ่, ใหญ่มาก กับเกาหลีเหนือ” ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่ห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน

“เราน่ะต้องการมากเลยที่จะแก้ไขสิ่งต่างๆ โดยใช้วิธีการทูต แต่มันยากเอามากๆ” เขาบอก ขณะที่พูดถึงเกาหลีเหนือว่าเป็นการท้าทายในระดับโลกใหญ่ที่สุดของเขา

ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ของจีน ก็เตือนว่ามีอันตรายที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีอาจไต่ระดับร้อนแรงขึ้นไปอีก หรือบานปลายจนควบคุมไม่อยู่ ทั้งนี้ตามคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีน

หวังแสดงความเห็นเช่นนี้ในระหว่างการพบปะหารือกับนักการทูตรัสเซียผู้หนึ่งที่สหประชาชาติเมื่อวันพฤหัสบดี (27) ทางกระทรวงระบุในคำแถลง

จีน ชาติใหญ่รายเดียวที่ยังคงเป็นพันธมิตรของเกาหลีเหนือ ได้แสดงความไม่สบายใจมากยิ่งขึ้นทุกทีในระยะไม่กี่เดือนหลังๆ นี้ ในเรื่องที่ชาติเพื่อนบ้านผู้โดดเดี่ยวของตนยังคงเดินหน้าทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และมุ่งพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกล ซึ่งเป็นการละเมิดมติหลายๆ ฉบับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

ทรัมป์ได้แสดงการยกย่องอย่างฟุ่มเฟือยต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในความพยายามที่จะดึงรั้งโสมแดงเอาไว้ โดยเรียกสีว่าเป็น “คนดีคนหนึ่ง”

“ผมเชื่อว่าเขากำลังพยายามอย่างหนักมาก ผมรู้ว่าเขาปรารถนาที่จะสามารถทำอะไรบางสิ่งบางอย่าง บางทีมันก็เป็นไปได้ที่เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ผมคิดว่าเขาปรารถนาที่จะสามารถทำอะไรบางสิ่งบางอย่าง” ทรัมป์พูดถึงประธานาธิบดีสี ระหว่างให้สัมภาษณ์รอยเตอร์
<i>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขณะให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) </i>
ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ก็สหรัฐฯ ก็พูดในวันพฤหัสบดี (27) เช่นกันว่า จีนได้ขอร้องเกาหลีเหนืออย่าได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์ใดๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีก และบอกด้วยว่าปักกิ่งยังได้เตือนด้วยว่าจะประกาศใช้มาตรการลงโทษคว่ำบาตรตามลำพังฝ่ายเดียว หากโสมแดงยังคงเดินหน้าต่อไป

“เราได้รับการบอกกล่าวจากฝ่ายจีนว่า พวกเขาได้แจ้งให้ระบอบปกครองนั้นทราบว่า ถ้าพวกเขายังคงดำเนินการทดสอบนิวเคลียร์ต่อไปอีก จีนก็จะใช้มาตรการลงโทษคว่ำบาตรของทางพวกเขาเอง” ทิลเลอร์สันกล่าวให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ข่าว “ฟอกซ์ นิวส์” โดยไม่ได้ระบุชัดเจนว่าการลงโทษคว่ำบาตรที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง

ทิลเลอร์สันไม่ได้ระบุเช่นกันว่าจีนข่มขู่เรื่องนี้ต่อเกาหลีเหนือเมื่อใด และในเฉพาะหน้านี้ก็ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากทางปักกิ่ง รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯมีกำหนดที่จะขึ้นเป็นประธานในการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นที่สำนักงานสหประชาชาติในนครนิวยอร์กวันนี้ (28) เพื่อพิจารณาเรื่องสถานการณ์เกาหลีเหนือ โดยที่ทิลเลอร์สันระบุว่าเขาจะเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่บรรดาชาติสมาชิกยูเอ็นจะต้องนำเอามาตรการลงโทษคว่ำบาตรที่ประกาศออกมาแล้ว ตลอดจนขั้นตอนต่อๆ ไปข้างหน้าที่จะมีขึ้น มาปฏิบัติกันอย่างเต็มที่

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จีนได้สั่งห้ามนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหนือ เท่ากับเป็นการตัดรายได้ส่วนใหญ่ที่โสมแดงได้รับจากสินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดรายการนี้ของตน นอกจากนั้นในเดือนเมษายนนี้ สื่อจีนยังพูดกันถึงความเป็นไปได้ที่จะจำกัดการขนส่งน้ำมันไปให้เกาหลีเหนือ หากโสมแดงยังคงแสดงการยั่วยุต่อไปอีก

ปักกิ่งเรียกร้องสนับสนุนมานานแล้วให้ใช้วิธีสนทนากันมาแก้ไขคลี่คลายประเด็นปัญหานิวเคลียร์เกาหลี ขณะที่อเมริกาบอกว่าพร้อมที่จะพิจารณาใช้ทางเลือกทุกๆ อย่างรวมทั้งด้านการทหาร และโสมแดงก็ข่มขู่ซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าจะทำลายสหรัฐฯ ให้ได้รับความเสียหายหนัก

ทรัมป์ประกาศเอาไว้ว่าจะป้องกันไม่ให้เกาหลีเหนือมีความสามารถที่จะโจมตีสหรัฐฯ ด้วยขีปนาวุธนิวเคลียร์ อันเป็นศักยภาพซึ่งพวกผู้เชี่ยวชาญกล่าวกันว่าโสมแดงอาจจะพัฒนาไปถึงในช่วงใดช่วงหนึ่งภายหลังปี 2020

ในกรุงมอสโก ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ซึ่งมาเยือน ได้เรียกร้องเกาหลีเหนือและประเทศอื่นๆ เมื่อวันพฤหัสบดี (27) ให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมหรือการใช้คำพูดซึ่งอาจเพิ่มความตึงเครียดในเรื่องเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของโสมแดง

กำลังโหลดความคิดเห็น