รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันปิดในกรอบแคบๆ เมื่อวันพุธ (26 เม.ย.) หลังข้อมูลสหรัฐฯ พบคลังน้ำมันดิบสำรองลดลงมากกว่าคาด ส่วนวอลล์สตรีทขยับลง ผิดหวังข้อเสนอลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาลทรัมป์ที่ยังก่อข้อสงสัย ขณะที่ทองคำปรับลด 3 วันติด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 6 เซ็นต์ ปิดที่ 49.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 21 เซ็นต์ ปิดที่ 51.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 3.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายไว้ถึง 2 เท่า บ่งชี้ถึงอุปสงค์แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่สต๊อกเบนซินและน้ำมันกลั่น อันประกอบด้วยดีเซลกับน้ำมันทำความร้อนเพิ่มขึ้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (26 เม.ย.) ปิดลบ หลังรายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ ถูกบดบังโดยความไม่แน่ชัดของข้อเสนอลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ดาวโจนส์ ลดลง 21.03 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,975.09 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.16 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,387.45 จุด แนสแดค ลดลง 0.27 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,025.23 จุด
ข้อเสนอของทำเนียบขาว ประกอบด้วยปรับลดภาษีภาคธุรกิจและภาษีที่เรียกเก็บจากกำไรที่บริษัทข้ามชาติส่งกลับสู่สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้นำเสนออย่างเจาะจงว่าจะดำเนินการอย่างไรโดยไม่ให้ตัวเลขขาดดุลพุ่งสูงไปมากกว่านี้
ความคาดหมายของการปรับลดภาษีนิติบุคคลเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหยุดนิ่งลงในช่วงหลายสัปดาห์หลัง เนื่องจากรัฐบาลล้มหลวในความพยายามผลักดันร่างกฎหมายสำคัญๆ ผ่านสภาครองเกรส แม้พรรครีพับลิกันจะครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (26 เม.ย.) ขยับลงแตะระดับ 2 สัปดาห์ครึ่ง จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,264.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์