เอเอฟพี - ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ ในซานฟรานซิสโกมีคำพิพากษาวานนี้ (25 เม.ย.) ให้ระงับคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งปฏิเสธการจ่ายงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์แก่เมืองต่างๆ ที่เปิดประตูต้อนรับผู้อพยพผิดกฎหมาย
ผู้พิพากษา วิลเลียม ออร์ริก ได้มีคำสั่งห้ามชั่วคราว (preliminary injunction) ขัดขวางการบังคับใช้คำสั่งบริหารที่ ทรัมป์ ลงนามเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งกลายเป็นสัญญาณความล้มเหลวล่าสุดสำหรับนโยบายปราบปรามผู้อพยพไร้ทะเบียนในสหรัฐฯ
“งบประมาณส่วนกลางที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอย่างมีนัยยะสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายผู้อพยพไม่อาจถูกระงับได้ เพียงเพราะขอบเขตอำนาจรัฐในพื้นที่หนึ่งๆ เลือกใช้ยุทธศาสตร์ที่ประธานาธิบดีไม่เห็นด้วย" ออร์ริก กล่าว
คำพิพากษานี้คาดว่าจะช่วยปกป้องกว่า 300 เมืองและเทศมณฑลทั่วสหรัฐฯ ที่คัดค้านคำสั่งบริหารของ ทรัมป์ และเป็นความพ่ายแพ้ล่าสุดของทำเนียบขาว หลังจากที่คำสั่งแบนผู้อพยพจากประเทศมุสลิมก็ถูกศาลสั่งระงับมาแล้วถึง 2 ครั้ง
ทรัมป์ ขู่จะตัดงบประมาณ 1,700 ล้านดอลลาร์สำหรับเทศมณฑลซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย และอีก 1,200 ล้านดอลลาร์สำหรับนครซานฟรานซิสโก
เจมส์ อาร์. วิลเลียมส์ ที่ปรึกษาประจำเทศมณฑลซานตาคลารา กล่าวชื่นชมคำตัดสินของศาลว่าเป็นการ “ยืนยันครั้งประวัติศาสตร์” ต่อหลักการประชาธิปไตย และวอชิงตัน “ไม่มีสิทธิ์ข่มขู่รัฐบาลท้องถิ่นให้ต้องกลายเป็นเครื่องมือบังคับใช้กฎหมายผู้อพยพของรัฐบาลกลาง”
ผู้พิพากษา ออร์ริก ระบุด้วยว่า ทีมกฎหมายของรัฐบาลเลี่ยงที่จะชี้แจงว่า ทรัมป์ มีสิทธิ์ออกคำสั่งเช่นนี้หรือไม่ แต่กลับแย้งข้างๆ คูๆ ว่านครซานฟรานซิสโกและเทศมณฑลซานตาคลาราไม่มีสิทธิ์ยื่นฟ้องคัดค้านคำสั่ง ทรัมป์ เพราะไม่ได้ถูกประกาศอย่างเป็นทางการให้เป็น “เขตอำนาจรัฐซึ่งให้ที่พักพิง” (sanctuary jurisdictions) ซึ่งวลีที่ว่านี้มีความหมายกว้างมากในทางกฎหมาย
ออร์ริก ชี้ว่า การที่ ทรัมป์ ออกมาขู่ซ้ำๆ ซากๆ ว่าจะใช้งบประมาณเป็น “อาวุธ” ลงโทษบรรดาเมืองที่ต่อต้านนโยบายของเขา แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีเจตนาที่ “ขัดต่อรัฐธรรมนูญ”
“รัฐธรรมนูญให้อำนาจในการอนุมัติงบประมาณแก่สภาคองเกรส ไม่ใช่ประธานาธิบดี ดังนั้น ทรัมป์จึงไม่มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะออกคำสั่งเพื่อสร้างเงื่อนไขใหม่ๆ ในการใช้จ่ายงบประมาณส่วนกลาง”
เดฟ คอร์เตส ประธานคณะที่ปรึกษาเทศมณฑลซานตาคลารา ก็กล่าวชื่นชมศาลที่ใช้อำนาจยับยั้งการเมืองที่เน้นสร้างความกลัว (politics of fear)
“คนหลายล้านคนทั่วประเทศจะมีสิทธิ์เข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่จำเป็น ได้ไปโรงเรียน และเป็นสมาชิกที่มีบทบาทต่อชุมชนต่อไปได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าหน่วยงานท้องถิ่นจะถูกบีบให้ต่อต้านพวกเขา”
เอ็ด เมอร์เรย์ นายกเทศมนตรีนครซีแอตเติลซึ่งได้ฟ้องศาลเพื่อคัดค้านคำสั่งของประธานาธิบดีเมื่อเดือน มี.ค.ก็ได้แถลงชื่นชมผู้พิพากษา ออร์ริก ที่ขัดขวาง “การใช้อำนาจอย่างเกินขอบเขตและอันตราย” ของทรัมป์
วันศุกร์ที่แล้ว (21) เจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ออกมากล่าวหาเมืองซึ่งให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพผิดกฎหมายว่ากำลังปล่อยให้พวกอาชญากรหัวรุนแรงเพ่นพ่านในสหรัฐฯ ได้อย่างเสรี
อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาของออร์ริกยังคงเปิดช่องให้กระทรวงยุติธรรมขู่ตัดงบประมาณแก่บางโครงการใน 9 เมืองของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงชิคาโก นิวออร์ลีนส์ และฟิลาเดลเฟีย หากเมืองเหล่านี้ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางอย่างเพียงพอ