ซีเอ็นเอ็น - กองทัพอากาศสหรัฐฯ กำลังส่งฝูงบินรบใหม่ล่าสุดไปยังบันไดหน้าประตูบ้านของรัสเซีย ส่วนหนึ่งของโปรแกรมซึ่งจัดตั้งขึ้นหลังจากมอสโกผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งดินแดนในปี 2014 เจ้าหน้าที่อเมริกาเปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นในวันอังคาร (25 เม.ย.)
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ฝูงบินขับไล่โจมตีร่วมล่องหน F-35A จะบินจากสหราชอาณาจักรไปยังเอสโตเนีย พันธมิตรนาโต้ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยเอสโตเนียเป็นชาติอดีตสหภาพโซเวียต และมีชายแดนร่วมกับรัสเซียเป็นระยะทางเกือบ 200 ไมล์ (320 กิโลเมตร)
นอกจากนี้แล้ว ฝูงบิน F-35A จะถูกส่งเข้าประจำการในโรมาเนียเช่นกัน ขณะที่โรมาเนียก็เป็นหนึ่งในสมาชิกปัจจุบันของนาโต้และเป็นอดีตพันมิตรในกติกาสัญญาวอร์ซอของสหภาพโซเวียต
ทั้งเอสโตเนีย และโรมาเนีย มีความกังวลว่าอาจถูกรัสเซียรุกราน หลังจากมอสโกผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยว่าการประจำการฝูงบิน F-35A ในยุโรป เป็นส่วนหนึ่งของแผนรับประกันเชิงรุกในยุโรป (European Reassurance Initiative) มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในปี 2014 เพื่อแสดงความสนับสนุนทางทหารแก่พันธมิตรยุโรป หลังรัสเซียผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
เครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 ถือเป็นเครื่องบินรบของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ล่าสุดที่ถูกส่งเข้าประจำการในยุโปรภายใต้โครงการ European Reassurance Initiative โดยเครื่องบินรุ่นอื่นๆ ก่อนหน้านี้มีทั้ง F-22s, F-16s, F-15s และ A-10s
การส่งฝูงบิน F-35 เข้าประจำการในยุโรปยังเป็นการอวดศักยภาพของเครื่องบินขับไล่รุ่นต่างๆ ของสหรัฐฯ แก่พันธมิตรยุโรปที่มีเครื่องบินเหล่านั้นไว้ในครอบครองแล้ว หรือไม่ก็มีแผนจัดหาเข้าประจำการในกองทัพของตนเอง ในนั้นรวมถึงสหราชอาณาจักร, อิตาลี, นอร์เวย์, เบลเยียม, เดนมาร์ก และตุรกี
นอกเหนือจากฝูงบินรบแล้ว สหรัฐฯ ยังส่งกองกำลังทางภาคพื้นเข้าประจำการในยุโรปส่วนหนึ่งในโปรแกรมดังกล่าวเช่นกัน ในนั้นรวมถึงการส่งกองพลน้อยยานเกราะและยุทโธปกรณ์หนักเข้าไปยังโปแลนด์ในเดือนมกราคม
รัสเซียตำหนิการประจำการดังกล่าวว่าเป็นภัยคุกคาม “นี่เป็นพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคามผลประโยชน์และความมั่นคงของเรา” ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของเครมลินกล่าว
ความเคลื่อนไหวของฝูงบิน F-35A ซึ่งในนั้น 8 ลำ เพิ่งเดินทางถึงสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 15 เมษายน เกิดขึ้นในขณะที่รัสเซียส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดโฉบใกล้แนวชายฝั่งอะแลสกาบ่อยครั้งในระยะหลัง โดยเจ้าหน้าที่อเมริกาเผยว่าพวกเขาต้องส่งเครื่องบินรบเข้าสกัดเครื่องบินของรัสเซียในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศอะแลสกาถึง 4 ครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แม้เที่ยวบินเหล่านั้นไม่มีทีท่าเป็นภัยคกคามทางทหารอย่างแท้จริง แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นถี่มากในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม รัสเซียแก้ต่างว่าพวกเขาดำเนินภารกิจลาดตระเวนตามปกติเหนือน่านน้ำสากลของอาร์กติก, แอตแลนติก, ทะเลดำและมหาสมุทรแปซิฟิก “ภารกิจทั้งหมดดำเนินการโดยปฏิบัติตามกฎระเบียบนานาชาติอย่างเข้มงวดและให้ความเคารพต่อชายแดนระหว่างประเทศ” กระทรวงกลาโหมมอสโกระบุในถ้อยแถลง