รอยเตอร์ - การไฟฟ้ายูเครนประกาศงดจ่ายไฟไปยังพื้นที่บางส่วนของภาคตะวันออกซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียในวันนี้ (25 เม.ย.) เนื่องจากค้างชำระหนี้ค่าไฟฟ้าเป็นเงินมหาศาล
ล่าสุด ยังไม่มีท่าทีตอบสนองจากกลุ่มผู้นำทางการเมืองในเขตลูกานสก์ซึ่งทำสงครามต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลยูเครน โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับรัฐบาลเคียฟที่มีกลุ่มชาติตะวันตกหนุนหลังอยู่
“ค่ำคืนนี้กระแสไฟฟ้าที่เคยจ่ายไปยังพื้นที่ยึดครองในเขตลูกานสก์จะถูกตัดโดยสิ้นเชิง” วเซโวลอด โควัลชุก ผู้อำนวยการบริษัทไฟฟ้ายูเครเนอร์โก (Ukrenergo) แถลงผ่านเฟซบุ๊ก
สื่อในลูกานสก์อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานซึ่งระบุว่า ภูมิภาคดังกล่าวซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซียได้เตรียมรับมือมาตรการตัดไฟของรัฐบาลไว้แล้ว และจะเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าจากแหล่งอื่นแทน
รัฐบาลยูเครนงดส่งก๊าซธรรมชาติเข้าไปยังลูกานสก์ตั้งแต่ปี 2015 โดยอ้างเหตุผลเรื่องการไม่ชำระหนี้เช่นกัน และยังใช้มาตรการปิดกั้นการค้ากับพื้นที่ยึดครองของพวกกบฏเมื่อเดือน มี.ค.ปีนี้
กรุงเคียฟกล่าวหาว่าพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนในลูกานสก์ค้างชำระค่าไฟฟ้ามากถึง 2,600 ล้านฮริฟเนีย (ประมาณ 3,360 ล้านบาท)
นับตั้งแต่รัสเซียใช้กำลังผนวกคาบสมุทรไครเมียเมื่อ 3 ปีก่อน ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลยูเครนกับกบฏโปรรัสเซียในภาคตะวันออกยังไม่มีวี่แววจะสงบลงได้ และข้อตกลงหยุดยิงที่ประกาศไว้เมื่อปี 2015 ก็ถูกละเมิดอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันอาทิตย์ (23) เจ้าหน้าที่การแพทย์ชาวอเมริกันที่ทำงานกับองค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) อยู่ในยูเครนตะวันออกเสียชีวิต และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คน หลังจากรถยนต์ของพวกเขาแล่นทับกับระเบิดที่หมู่บ้าน Pryshyb ไม่ไกลจากลูกานสก์