เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เตือนในวันจันทร์ (24 เม.ย.) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องพร้อมกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือหนักหน่วงขึ้น ต่อโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเปียงยาง ด้วยระบุไม่สามารถยอมรับสภาวะปัจจุบันได้
“นี่คือภัยคุกคามโลกอย่างแท้จริง” ทรัมป์กล่าว ระหว่างให้การต้อนรับเหล่าคณะทูตจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ทำเนียบขาว “เกาหลีเหนือคือปัญหาใหญ่ของโลก และท้ายที่สุดเราจำเป็นต้องแก้ปัญหา คณะมนตรีต้องพร้อมสำหรับกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมและหนักหน่วงขึ้น เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ”
เป็นที่แน่ชัดว่าความเห็นนี้จะกระพือความตึงเครียดให้สาหัสขึ้นไปอีก
เชื่อกันว่าเกาหลีเหนือซึ่งเดินหน้าโครงการขีปนาวุธ กำลังเตรียมการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และควบคุมตัวพลเรือนสหรัฐฯ อีก 1 คน นับเป็นรายที่ 3 แล้วที่ถูกกักขังในประเทศแห่งนี้
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้สั่งกองเรือรบจู่โจม ที่นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินคาร์ลวินสัน มุ่งหน้าสู่ทางตะวันตกของแปซิฟิก ใกล้กับเกาหลีเหนือ โดยกองเรือนี้มีกำหนดเดินทางถึงพื้นที่ดังกล่าวในช่วงสิ้นเดือนเมษายน
เพนตากอนเผยว่าเหล่าผู้นำของกระทรวงกลาโหมและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ จะบรรยายสรุปลับเกี่ยวกับสถานการณ์ของคาบสมุทรเกาหลีให้วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ได้ฟัง ณ ทำเนียบขาวในวันพุธ (26 เม.ย.) จากปกติที่มักบรรยายสรุปกันภายในห้องที่มีการคุ้มกันแน่นหนาในรัฐสภา
ในการนี้ ไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งกำลังมุ่งหน้ากลับวอชิงตัน หลังเดินทางเยือนเอเชียและออสเตรเลีย ก็จะเข้าร่วมประชุมด้วย
ทรัมป์พูดเป็นนัยว่าเขาจะเพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อเกาหลีเหนือ โดยปฏิเสธเจรจาแบบทวิภาคีกับเปียงยาง แต่ขณะเดียวกันก็สนับสนุนให้จีนใช้อิทธิพลกดดันพันธมิตรแห่งนี้
ผู้นำสหรัฐฯ พูดคุยทางโทรศัพท์กับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เกี่ยวกับเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ (23 เม.ย.) และในวันจันทร์ (24 เม.ย.) ได้ต่อสายตรงหารือกับ อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ในประเด็นดังกล่าว
ถ้อยแถลงของทำเนียบขาวระบุว่า ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์กับสี “ทั้งสองผู้นำย้ำถึงภัยคุกคามเร่งด่วนจากโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และให้สัญญากระชับความร่วมมือเพื่อเป้าหมายทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์”