รอยเตอร์ - อเมริกันแอร์ไลน์สมีคำสั่งให้พักงานลูกจ้างสายการบินคนหนึ่ง หลังมีผู้แชร์คลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ขณะที่ลูกเรือทะเลาะทุ่มเถียงกับผู้โดยสาร และหญิงคนหนึ่งอุ้มลูกร้องไห้เพราะไม่สามารถนำรถเข็นเด็กขึ้นเครื่อง
เจ้าของเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ สุเรน อัดยันธายา (Surain Adyanthaya) ได้โพสต์คลิปวิดีโอนี้เมื่อวันศุกร์ (21 เม.ย.) พร้อมกล่าวหาว่าพนักงานอเมริกันแอร์ไลน์สคนหนึ่งกระชากรถเข็นเด็กไปจากหญิงรายนี้ และยังใช้มันตีเธอจนเกือบจะพลาดถูกทารก
เมื่อไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อน นายแพทย์ เดวิด ดาว ชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนามวัย 39 ปี เพิ่งจะถูกทำร้ายจนบาดเจ็บถึงขั้นต้องส่งโรงพยาบาล เมื่อตำรวจการบินชิคาโกใช้กำลังกระชากลากถูกเขาลงจากเที่ยวบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวที่เรียกเสียงวิจารณ์ไปทั่วโลก
เลสลี สก็อตต์ โฆษกหญิงของอเมริกันแอร์ไลน์ส ยืนยันว่า บริษัทกำลังเร่งสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในคลิปเมื่อวันศุกร์ (21) ซึ่งเกิดขึ้นบนเที่ยวบิน 591 ซึ่งกำลังจะออกเดินทางจากนครซานฟรานซิสโกไปยังดัลลัส
สก็อตต์ ระบุว่า ต้นตอของเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อพนักงานไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารหญิงแม่ลูกอ่อนนำรถเข็นเด็กติดตัวขึ้นเครื่อง
จากคลิปวิดีโอที่ อัดยันธายา บันทึกไว้ คุณแม่รายนี้พยายามอ้อนวอนพนักงานให้คืนรถเข็นเด็กแก่เธอ จากนั้นผู้โดยสารชายคนหนึ่งก็ลุกจากที่นั่งเดินไปด้านหน้า และขอทราบชื่อของพนักงานที่แย่งรถเข็นไปจากหญิงคนนี้ ก่อนจะเดินกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง
ไม่กี่อึดใจต่อมา ลูกจ้างอเมริกันแอร์ไลน์สอีกคนหนึ่งซึ่ง สก็อตต์ ระบุว่าเป็นพนักงานต้อนรับประจำเที่ยวบินก็เดินเข้ามา และเกิดการเผชิญหน้ากับผู้โดยสารชาย
“ถ้าคุณกล้าทำอย่างนั้นกับผม ผมจะอัดคุณให้น่วมเลยคอยดู” ผู้โดยสารชายกล่าว
ทั้งสองยืนประจันหน้ากันอยู่ตรงทางเดิน จากนั้นพนักงานก็เริ่มพูดท้าทายผู้โดยสารให้ชกหน้าตน ทว่าสุดท้ายผู้โดยสารคนดังกล่าวก็ยอมกลับไปยังที่นั่ง ส่วนพนักงานคู่กรณีก็เดินลงจากเครื่องไป
“เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ได้สร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้โดยสารท่านนี้และครอบครัวของเธอด้วย รวมถึงลูกค้าท่านอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้” อเมริกันแอร์ไลน์สแถลงเมื่อค่ำวันศุกร์ (21) พร้อมระบุว่า สายการบินได้ทำการอัปเกรดที่นั่งให้ผู้โดยสารหญิงและครอบครัวของเธอเป็นชั้นเฟิร์สต์คลาส ตลอดการเดินทางเที่ยวนี้
ชาวเน็ตส่วนใหญ่ที่ได้ดูคลิปวีดีโอนี้ต่างโพสต์ข้อความชื่นชมผู้โดยสารชายแปลกหน้าที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน