รอยเตอร์ – รัสเซียบอกกับสหรัฐฯว่า พวกเขาเสียใจที่วอชิงตันคัดค้านการปล่อยให้ทีมผู้ตรวจสอบของพวกเขามีส่วนร่วมในการสืบสวนการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรียเมื่อต้นเดือนนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ระบุเมื่อวานนี้ (21)
ทางกระทรวงระบุว่า รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เซอร์เกย์ ลอฟรอฟ คุยโทรศัพท์กับ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าจะพิจารณาเรื่องการสืบสวนเหตุการณ์นี้อย่างเที่ยงตรงกันอีกครั้งภายใต้การคุ้มครองขององค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW)
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวว่าในระหว่างการพูดคุย ทิลเลอร์สันเน้นย้ำกับลาฟรอฟว่าเขาสนับสนุนกลไกการสอบสวนที่มีอยู่ของ OPCW พวกเขายังหารือกันในหลายๆ ประเด็น รวมถึง ประเด็นที่ถูกหยิบยกในระหว่างการเยือนมอสโควันที่ 11-12 เมษายนของทิลเลอร์สัน
สหรัฐฯกล่าวหากองทัพซีเรียว่าดำเนินการโจมตีเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากก๊าซพิษหลายคน และพวกเขาตอบสนองด้วยการยิงขีปนาวุธร่อนใส่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของซีเรีย
รัสเซียปกป้องดามัสกัส พันธมิตรของพวกเขา และโทษว่าเหตุการณนี้เป้นฝีมือของกบฏที่สู้รบกับรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ข้อขัดแย้งระหว่างสองประเทศนี้เพิ่มขึ้นและทำลายความหวังของรัสเซียที่ว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจดีขึ้นภายใต้รัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทรัมป์กล่าวว่า ความสัมพันธ์กับมอสโคอาจแย่กว่าที่เคยเป็นมา
ในการพูดถึงอักปัญหาหนึ่งในความสัมพันธ์ กอทัพรัสเซียระบุว่า ลอฟรอฟเรียกร้องให้ทิลเลอร์สันส่งคืน “ทรัพย์สินทางการทูตของรัสเซียในสหรัฐฯที่ถูกรัฐบาล บารัค โอบามา ยึดไปอย่างผิดกฎหมาย”
อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ขับไล่สายลับรัสเซีย 35 คนในเดือนธันวาคมและสั่งให้ชาวรัสเซียหลายคนออกจากสถนที่พักผ่อนย่านชนบทสองแห่งนอกวอชิงตันและนิวยอร์กที่เขากล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรม
กระทรวงฯ ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดตั้งคณะทำงานในเร็วๆ นี้เพื่อ “หาทางขจัดขวากหนามในความสัมพันธ์ทวิภาคี”