เอเจนซีส์ - การอพยพประชาชนชาวซีเรียจาก 2 หมู่บ้าน โฟอาห์ (Foah) และ เคฟรายา(Kefraya) ทางตะวันตกเฉียงเหนือเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากเหตุโจมตีขบวนผู้อพยพครั้งใหญ่ใกล้เมืองอะเลปโปในวันเสาร์ (15 เม.ย.) ที่เห็นยอดผู้เสียชีวิต 126 คน ซึ่งมีเด็กไม่ต่ำกว่า 68 คน รวมอยู่ในนั้น
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (19 เม.ย.) ว่า มีคนราว 3,000 คน ถูกอพยพออกนอกพื้นที่ปิดล้อมของฝ่ายกบฏ ออกจากหมู่บ้าน โฟอาห์ (Foah) และหมู่บ้านเคฟรายา (Kefraya) ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
ในขณะเดียวกัน คาราวานรถบัสบรรทุกผู้อพยพได้นำผู้อพยพจำนวนหลายสิบคนออกจากซาบาดานี (Zabadani) ที่อยู่ภายใต้การยึดของกองกำลังสนับสนุนรัฐบาลซีเรีย ใกล้กับกรุงดามัสกัส
สื่ออังกฤษชี้ว่า มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดหลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์โจมตีคาราวานรถบัสผู้อพยพใกล้เมืองอะเลปโปในวันเสาร์ (15 เม.ย.)
โดยกลุ่มสังเกตการณ์ซีเรีย SOHR ที่มีฐานอยู่ในอังกฤษ ได้ออกมายืนยันรายงานถึงการกลับมาเริ่มต้นการอพยพอีกครั้ง โดยชี้ว่าเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (19 เม.ย.) ซึ่งผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สมาชิกกบฏจำนวนหนึ่งพร้อมอาวุธในมือคอยคุมเชิงรักษาความปลอดภัยใกล้รถบัส ซึ่งมีการตรวจค้นเพื่อความปลอดภัยรถบัสเหล่านี้อย่างละเอียด
ทั้งนี้ พบว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้อพยพในวันเสาร์ (15 เม.ย.) นั้น อาศัยอยู่ในเมืองที่ฝ่ายรัฐบาลซีเรียยึดครอง โดยในจำนวน 126 คนนั้น มีเด็กจำนวน 68 คนรวมอยู่ในนั้น
ซึ่งมาจนถึงวันพุธ (19 เม.ย.) บีบีซี ชี้ว่า ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบ
ภายใต้ข้อตกลง สื่ออังกฤษชี้ว่า มีการคาดการณ์ว่า ผู้อพยพยพจำนวน 30,000 คนจะถูกอพยพออกมาเพื่อสิ้นสุดวิกฤตทางมนุษยธรรมไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยในเดือนที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติได้ออกมาชี้ถึงสถานการณ์ใน 4 เมือง ว่า อยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งมีประชาชนชาวซีเรียไม่ต่ำกว่า 64,000 คน ติดอยู่ในวงจรของความรุนแรงและความไม่มีในแต่ละวัน
โดยมีรายงานว่า มีคนจำนวนมากต้องเสียชีวิตจากการขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค
