เอเอฟพี - จรวดที่เกาหลีเหนือนำออกมายิงทดสอบและล้มเหลวครั้งล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (16 เม.ย.) อาจเป็นระบบขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่ทั่วโลกยังไม่เคยรู้จักมาก่อน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธระบุวานนี้ (17)
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังไม่ชี้ชัดว่า จรวดที่ “ระเบิดเกือบจะทันที” หลังพุ่งออกจากฐานยิงใกล้ๆ เมืองซินโป (Sinpo) บนชายฝั่งตะวันออกของรัฐโสมแดงเมื่อช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ (16) เป็นชนิดใด ขณะที่ทำเนียบขาวก็เพียงแต่บอกว่าเป็น “ขีปนาวุธพิสัยกลาง” เท่านั้น
จอห์น สกิลลิง ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธจากกลุ่ม 38 North ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ ระบุว่า การทดสอบที่ล้มเหลวครั้งนี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าจรวดที่ถูกนำมายิงอาจเป็น “ระบบใหม่”
“การที่จรวดล้มเหลวตั้งแต่เริ่มปล่อยออกจากฐานยิงนั้นเกิดขึ้นเป็นประจำกับจรวดของเกาหลีเหนือที่ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นพัฒนา และพวกเขายังต้องแก้ไขข้อบกพร้องในระบบขับเคลื่อนและนำวิถี” สกิลลิง บอกกับเอเอฟพี
“ถ้าเราทราบรายละเอียดมากกว่านี้ก็คงจะดี แต่ผมสงสัยว่านี่คือจรวดรุ่นใหม่ หรือไม่ก็ต้องเป็นรุ่นที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่”
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งไม่ประสงค์ออกนามให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า ระบบอาวุธที่โสมแดงนำออกมาทดสอบล่าสุดคือจรวดสกั๊ดรุ่นใหม่ KN-17 ที่ใช้เชื้อเพลิงเหลว และมีองค์ประกอบของตัวขับเคลื่อนเพียงส่วนเดียว (single-stage) โดยจรวดรุ่นนี้อาจนำไปใช้สำหรับโจมตีเรือ
สกิลลิง เชื่อว่า สิ่งที่ถูกทดสอบน่าจะเป็นจรวดรุ่นใหม่ที่ คิม จองอึน นำออกมาอวดสายตาชาวโลกในพิธีสวนสนามกองทัพที่กรุงเปียงยางเมื่อวันเสาร์ (15)
เขายืนยันว่า แม้จรวดรุ่นนี้จะถูกติดตั้งไว้บนรถบรรทุกสำหรับขีปนาวุธพิสัยกลางมูซูดัน แต่ไม่ใช่จรวดชนิดเดียวกัน
“นี่คือสิ่งที่เรายังไม่เคยเห็นพวกเขาทดสอบมาก่อน และถ้าเกาหลีเหนือต้องการอวดว่ามันใช้การได้จริง การรีบเร่งทดสอบทันทีหลังจากเปิดเผยให้ทั่วโลกได้เห็น ก็เป็นอะไรที่เข้าเค้าอยู่”
ซูซาน ทอร์นตัน รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะสืบข้อมูล เนื่องจากจรวดระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ หลังพุ่งออกจากฐานยิงไม่กี่วินาที
“เราเข้าใจว่ามันคงไม่ใช่ขีปนาวุธพิสัยไกล แต่น่าจะเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางที่ยังคงใช้เทคโนโลยีต้องห้าม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกันขบคิดต่อไป” ทอร์นตันกล่าว
ผู้สังเกตการณ์บางคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า ปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ อาจจะมีส่วนทำให้การยิงทดสอบจรวดของเกาหลีเหนือล้มเหลวเมื่อวันอาทิตย์ (16)
เมื่อเดือนที่แล้ว หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้สั่งให้มีการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของเกาหลีเหนือเพื่อทำลายจรวดตั้งแต่ก่อนยิง หรือขณะพุ่งออกจากฐานยิง
มัลคอล์ม ริฟคินด์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า “เป็นไปได้อย่างมากว่าปฏิบัติการทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการขัดขวางการทดสอบเหล่านี้ และทำให้มันล้มเหลวไปแล้วหลายครั้ง”
อย่างไรก็ดี สกิลลิง กลับมองว่าเรื่องการแฮ็กขีปนาวุธของโสมแดงนั้นออกจะเป็นการพูดเกินจริงไปหน่อย
“เท่าที่เราทราบเกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการขับเคลื่อน นับว่ายังเป็นแบบดั้งเดิม (primitive) อยู่มาก และแทบไม่มีระบบดิจิทัลหรืออิเล็กทรอนิกส์ที่จะแฮ็กได้เลย”
เมื่อวานนี้ (17) รัฐมนตรีกลาโหม เจมส์ แมตทิส ได้ออกคำสั่งตรวจสอบระบบป้องกันนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ “เพื่อให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมต่อการรับมือภัยคุกคามในศตวรรษที่ 21 และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาติพันธมิตร”
การตรวจสอบในลักษณะนี้จะมีขึ้นทุกๆ 7 ปี