รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันปรับลงเล็กน้อยในวันจันทร์ (17 เม.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง จากข้อมูลกำลังผลิตของสหรัฐฯ และแรงขายทำกำไร ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งตามแรงหนุนกลุ่มธนาคารและเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำปิดบวกหลังดอลลาร์อ่อนค่า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม 53 เซ็นต์ ปิดที่ 52.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 53 เซ็นต์ ปิดที่ 55.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อวันจันทร์ (17 เม.ย.) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันชั้นหินของอเมริกาในเดือนพฤษภาคมอาจจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นรายเดือนมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี กระพือความกังวลว่ามันจะกัดเซาะความพยายามยับยั้งภาวะอุปทานล้นตลาดของชาติผู้ผลิตลำดับต้นๆ ของโลกรายอื่นๆ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจ้นทร์ (17 เม.ย.) ฟื้นตัวแรง หลังจากก่อนหน้านี้เอสแอนด์พี 500 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากแรงหนุนของกลุ่มเทคโนโลยีและธนาคาร
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 183.67 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,636.92 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 20.06 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,349.01 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 51.64 จุด (0.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,856.79 จุด
นักลงทุนหันเหความสนใจจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์สู่รายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ โดยสมาชิกดาวโจนส์หลายบริษัท ในนั้นรวมถึงโกลด์แมน แซคส์, เจเนอรัล อิเล็กทริค และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มีกำลังเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวในช่วงกลางสัปดาห์
ทั้งนี้ การซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้เป็นไปอย่างเบาบาง โดยเป็นวันที่มีมูลค่าซื้อขายน้อยที่สุดของปี 2017
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (17 เม.ย.) ปิดบวกเล็กน้อย แต่แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือนหลังดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,291.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์