เอเอฟพี/เอพี - พัค กึน-ฮเย อดีตประธานาธิบดีหญิงเกาหลีใต้ ผู้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งและกำลังถูกคุมขังระหว่างการสอบสวน ได้ถูกอัยการตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการแล้วในวันจันทร์ (17 เม.ย.) ทั้งการรับสินมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ซึ่งกลายเป็นกรณีคอร์รัปชันฉาวโฉ่ที่จุดชนวนไปสู่การตกลงจากอำนาจของเธอ ตลอดจนความผิดฐานใช้อำนาจโดยมิชอบและการทำให้ความลับของรัฐรั่วไหล ทั้งนี้โทษสูงสุดของข้อกล่าวหาเหล่านี้ถึงขั้นทำให้เธอต้องติดคุกไปจนตลอดชีวิตทีเดียว
คณะอัยการของกรุงโซลซึ่งรับผิดชอบการสอบสวนคดีของพัค ระบุในคำแถลงสรุปที่ออกมาเมื่อวันจันทร์ (17) ภายหลังใช้เวลาในการสอบสวนอยู่หลายเดือน ว่า “เราได้ตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการต่อพัค … ว่ากระทำความผิดหลายกระทงด้วยกัน เป็นต้นว่า การใช้อำนาจโดยมิชอบ, การขู่เข็ญบีบบังคับ, การรับสินบน และการปล่อยให้ความลับของรัฐรั่วไหล”
ทั้งนี้ พัคถูกกล่าวหาว่าได้สมคบกับ ชอย ซุนซิว หญิงคนสนิทไว้วางใจของเธอผู้ซึ่งถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีแล้วเช่นเดียวกัน ในการบีบบังคับให้พวกกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้หลายราย ต้องบริจาคเงินเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 77,400 ล้านวอน (ราว 68 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,360 ล้านบาท) แก่มูลนิธิไม่ค้ากำไร 2 แห่ง โดยที่ชอยถูกกล่าวหาว่าได้ใช้เงินบริจาคเหล่านี้บางส่วนไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
คณะอัยการยังตั้งข้อหาว่าพัคได้เสนอที่จะดำเนินการในทางที่เอื้อประโยชน์แก่พวกผู้บริหารกลุ่มธุรกิจระดับท็อปซึ่งยอมบริจาคเงินให้แก่ชอย โดยที่ผู้บริหารธุรกิจเหล่านี้หลายรายได้ถูกทางการเกาหลีใต้สอบสวน รวมทั้ง ลี แจยอง ผู้บริหารสูงสุดในทางพฤตินัยของกลุ่มซัมซุง ซึ่งได้ถูกจับกุมตัวก่อนหน้านี้ และเวลานี้กำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาติดสินบนด้วย
เมื่อวันจันทร์ (17) คณะอัยการกรุงโซลนอกจากตั้งข้อหาอดีตประธานาธิบดีหญิงแล้ว ยังตั้งข้อหาต่อ ชิน ดองบิน ประธานของล็อตเต้กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่อันดับ 5 ของเกาหลีใต้ ในความผิดฐานใช้เงินกว่า 7,000 ล้านวอน (ราว 6 ล้านดอลลาร์) ติดสินบนชอยและพัค เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่พัคจะดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจร้านขายสินค้าปลอดภาษีของกลุ่มล็อตเต้
พัคซึ่งปัจจุบันอายุ 65 ปี ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลีใต้เมื่อปลายปี 2012 มาถึงตอนนี้ประเทศชาติจะได้เห็นเธอถูกบังคับนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในศาลในสภาพที่ถูกใส่กุญแจมือ อีกทั้งเป็นไปได้ว่าอยู่ในเครื่องแต่งกายชุดนักโทษของเรือนจำ
กรณีฉาวโฉ่ของเธอได้ทำให้มีผู้คนในเกาหลีใต้เป็นล้านๆ ออกมาชุมนุมเดินขบวนประท้วงกันตามท้องถนนโดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ อย่างต่อเนื่องอยู่เป็นแรมเดือน เพื่อเรียกร้องให้ขับไล่ประธานาธิบดีจากพรรคแนวทางอนุรักษนิยมผู้นี้ และรัฐสภาเกาหลีใต้ก็ได้ลงมติให้ถอดถอนพัคออกจากตำแหน่งในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ท่ามกลางแรงกดดันซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากสาธารณชน
ศาลสูงสุดของประเทศซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยว่า ประธานาธิบดีมีความผิดสมควรถูกถอดถอนตามมติของรัฐสภาหรือไม่ ได้ออกคำตัดสินเห็นชอบตามรัฐสภาและถอดถอนเธอจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นทางอัยการก็เข้ามาสอบสวนความผิดของเธอเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดี โดยที่เธอถูกคุมขังอยู่ในศูนย์กักขังซึ่งตั้งอยู่ชานกรุงโซลนับตั้งแต่ที่เธอถูกจับกุมตัวในเดือนที่แล้ว