เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางแบบปิดลับไปยังเขตบัฟเฟอร์โซนทางทหาร DMZ กั้นระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ เป็นจุดที่อดีตผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดีคลินตัน เคยประกาศ “DMZ เกาหลีใต้ เป็นสถานที่น่ากลัวที่สุดในโลก” แต่ในวันนี้ (17 เม.ย.) เพนซ์พร้อมกับ พล.อ.วินเซนต์ บรูกส์ (Vincent Brooks) ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ประจำเกาหลีใต้ เดินทางไปถึง 1 วันหลังผู้นำเกาหลีเหนือยิงมิสไซล์รับ ประกาศห่างจากเส้นแบ่งทางทหารไปไม่กี่ก้าว “ทุกทางเลือกยังวางอยู่บนโต๊ะ” และคนเกาหลีเหนือรวมไปถึงกองทัพของเปียงยาง...อย่าประมาทสหรัฐฯ ต่อพันธะและสัญญาที่มีให้กับชาติพันธมิตรเกาหลีใต้
NBC NEWS รายงานเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีบิดาเป็นอดีตนายทหารรบสงครามเกาหลี รับรางวัลเกียร์ติยศในความกล้าหาญเหรียญบรอนซ์ เดินทางมายังเกาหลีใต้ พร้อมครอบครัว
และในวันนี้ (17 เม.ย.) ในกำหนดการปิดลับเพื่อความปลอดภัย เพนซ์ ที่ถูกเรียกในอเมริกาว่า วีป เพนซ์ (VEEP หรือรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพนซ์) เดินทาง ที่มี พล.อ.วินเซนต์ บรูกส์ (Vincent Brooks) ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ประจำเกาหลีใต้ร่วมอยู่ด้วย มายังเขตห้ามปฏิบัติการทางทหารที่เรียกว่า เขต DMZ กั้นระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า เพนซ์ที่อยู่ในชุดสูทพร้อมเนกไทสีแดง ขนาบข้างพร้อมกับ พล.อ.บรูกส์ในชุดเครื่องแบบลายพรางทางทหาร และตำรวจลับคุ้มกันความปลอดภัยรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ห่างออกไปจากเขต DMZ ไม่กี่หลา วีปเพนซ์ประกาศ “นี่คือพรมแดนแห่งเสรีภาพ” ซึ่งโซน DMZ นี้ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนใหม่ เดินทางมายังหมู่บ้านพันมูนจอม (Panmunjom) ในช่วงกลางเดือนมีนาคม ก่อนหน้านี้
และในปี 2012 อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้เดินทางมาสำรวจจุด DMZ เส้นแบ่งเขตระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือด้วยเช่นกัน โดยโอบามาต่างจากตัวแทนระดับสูงของรัฐบาลทรัมป์ที่เดินทางมาในชุดสูทธุรกิจ แต่โอบามาอยู่ในชุดทะมัดทะแมง พร้อมแจ็คเก็ตหนังสีน้ำตาลรูปเครื่องหมายตราประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมป้ายชื่อ ที่บริเวณหมู่บ้านสงบศึกสองเกาหลี ใช้กล้องอินฟราเรดจับความเคลื่อนไหวแบบ 2 ตา ส่องชมวิวไปยังเขตเกาหลีเหนือ ซึ่งบริเวณจุดที่โอบามายืนนั้นมีกระจกหนากั้นสูงกว่าตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ กั้นไว้
เขต DMZ นี้เป็นสถานที่ครั้งหนึ่ง บิล คลินตัน อดีตผู้นำสหรัฐฯ ได้เคยกล่าวไว้ว่า “เป็นสถานที่อันตรายมากที่สุดในโลก”
แต่ในวันจันทร์ (17 เม.ย.) ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจากเขตห้ามปฏิบัติการทางทหารว่า “ทุกทางเลือกยังวางอยู่บนโต๊ะ” พร้อมประกาศกร้าวต่อว่า “ประชาชนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีเหนือ และกองทัพเกาหลีเหนือไม่ควรเข้าใจผิดต่อพันธะและสัญญาของสหรัฐฯต่อจุดยืนของเราที่มีต่อพันธมิตรของพวกเรา”
ในแถลงการณ์ของเพนซ์ยังชี้ต่อว่า “ความเป็นพันธทมิตรระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ นั้นแข็งแกร่ง”
NBC NEWS รายงานว่า ในระหว่่างการทัวร์เอเชีย 10 วัน วีปเพนซ์ได้ประกาศกลางงานเลี้ยงอาหารค่ำเทสกาลฉลองอีสเตอร์ภายในฐานทัพสหรัฐฯ USAG Yongsan ใกล้กรุงโซลว่า การทดสอบมิสไซล์ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (16) นั้นถือเป็นการยั่วยุออกมาจากเกาหลีเหนือ และตัวเขาได้ติดต่อพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถึง 2 ครั้งในวันอาทิตย์ (16)
โดยในการเดินทางมาเยือนเอชียครั้งนี้ เพนซ์เดินทางมาพร้อมกับสุภาพสตรีหมายเลข 2 ของสหรัฐฯ และบุตรสาว 2 คน ซึ่งในช่วงอาหารค่ำร่วมกับบรรดานายทหารสหรัฐฯ เพนซ์กล่าวว่า “ถือเป็นเกียร์ติอย่างยิ่งที่ผมได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่” และกล่าวต่อว่า “บิดาผมเป็นนายทหารทำงานรับใช้กองทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งในระหว่างการเดินทางมาที่แห่งนี้ เราได้มีโอกาสได้เห็นพื้นที่ซึ่งพ่อของผมได้ร่วมรบ” และกล่าวต่อว่า “เรารู้สึกยินดีทุกวัน และนี่ถือเป็นเกียร์ติที่ได้มายืนอยู่ที่ตรงนี้”
เดลีเทเลกราฟรายงานเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ ต้องการใช้ทางเลือกที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะเพื่อทำให้เกาหลีเหนือล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์
เพนซ์ได้กล่าวต่อกลุ่มนักข่าวในระหว่างที่เขาอยู่ใกล้โซน DMZ ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการเห็นปักกิ่งใช้ “แรงกดดันพิเศษ” เพื่อเปลี่ยนให้เปียงยางหันเหความสนใจจากการพัฒนานิวเคลียร์
โดยในการให้สัมภาษณ์ วีพเพนซ์ยืนยันว่า “ยุคสมัยแห่งความอดทนเชิงยุทธศาสตร์ของอเมริกาได้จบสิ้นลงแล้ว”
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯได้บินต่อไปด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังค่ายแคมป์โบนิฟาส (Camp Bonifas) ซึ่งเป็นค่ายบัญชาการขององค์การสหประชาชาติที่มีสหรัฐฯ เป็นผู้นำประจำอยู่ ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรทางใต้ของโซน DMZ
และจากที่นั่น เดลีเทเลฟราฟรายงานว่า เชื่อว่า เพนซ์จะถูกนำต่อเข้าไปยังหมู่บ้านสงบศึก หมู่บ้านพันมูนจอม ซึ่งในจุดนี้เอเอฟพีรายงานผ่านภาพว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่ในชุดทะมัดทะแมง สวมแจ็กเกตสีเข้มพร้อมป้ายชื่อและตำแหน่งกำกับ
จากการรายงานของเอเอฟพีผ่านภาพถ่ายพบว่า ภายในฝั่งเกาหลีเหนือได้มีการจับภาพเคลื่อนไหวของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมีการถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เคยประกาศว่า เขาไม่สามารถอนุญาตให้เกาหลีเหนือทำการพัฒนามิสไซล์ข้ามทวีปที่มีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ สามารถโจมตีชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ได้
ซึ่งในวันอาทิตย์ (16 เม.ย.) ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศระดับสูงของทำเนียบขาว เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ ล่าสุด ที่ออกมาเตือนว่า ในขณะที่แรงกดดันทางการทูตยังถือเป็นทางเลือกแรกที่ต้องการสำหรับอเมริกา แต่อออปชันปฎิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ยังคงถูกวางอยู่บนโต๊ะ
โดยแหล่งข่าวเตือนว่า “เรามีตัวเลือกที่หลากหลายวางอยู่บนโต๊ะสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกใช้”