xs
xsm
sm
md
lg

เกาหลีเหนือโชว์ขีปนาวุธข้ามทวีปไอซีบีเอ็มรุ่นใหม่ อวดจรวดยิงจากเรือดำน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ภาพนิ่งซึ่งถ่ายจากวิดีโอของสถานีโทรทัศน์เคอาร์ทีของเกาหลีเหนือ  แสดงให้เห็นขีปนาวุธที่มองเห็นแต่ตัวท่อสำหรับยิง และรถบรรทุกที่ใช้ลำเลียง แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่าข้างในท่อยิงอาจจะเป็นขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีปซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาของโสมแดง  ทั้งนี้เกาหลีเหนือนำขีปนาวุธนี้ออกมาโชว์ระหว่างการสวนสนามครั้งมโหฬารในกรุงเปียงยางวันเสาร์ (15 เม.ย.) นี้ </i>
เอเอฟพี/เอพี/เอเจนซีส์ - เกาหลีเหนืออวดโฉมอาวุธที่เดากันว่าอาจจะเป็นขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีปรุ่นใหม่ ในระหว่างการเดินสวนสนามครั้งมโหฬารที่กรุงเปียงยางวันเสาร์ (15 เม.ย.) บรรดานักวิเคราะห์ระบุ พร้อมกับชี้ว่ายังไม่สามารถยืนยันชัดเจนว่าสิ่งที่นำมาโชว์คราวนี้มีแต่เพียงเปลือกนอก หรือสามารถนำมาใช้งานได้แล้วจริงๆ

ระหว่างการสวนสนามเนื่องในวาระวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 105 ปีของคิล อิลซุง ผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือในวันเสาร์ (15) โสมแดงได้นำเอาขีปนาวุธ 10 แบบจำนวนรวมเกือบๆ 60 ลูกเคลื่อนผ่านไปตามจัตุรัสคิม อิลซุง อันเป็นจัตุรัสสำคัญที่สุดในกรุงเปียงยาง เพื่อเป็นการสำแดงแสนยานุภาพในขณะที่ความตึงเครียดกำลังพุ่งพรวดขึ้นอย่างแรง สืบเนื่องจากความทะเยอทะยานทางทหารของรัฐที่อยู่โดดเดี่ยวเดียวดายแห่งนี้

เป้าหมายสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้แก่ขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป (intercontinental ballistic missile หรือ ICBM) ที่สามารถบรรจุหัวรบนิวเคลียร์และยิงไปถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ ได้ แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของอเมริกาประกาศเอาไว้ว่า “จะไม่มีทางเกิดขึ้น”

ในการสวนสนามในวันเสาร์ (15) โสมแดงได้อวดขีปนาวุธที่ดูเหมือนมีประเภทต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับการสวนสนามอย่างเป็นทางการคราวก่อนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขีปนาวุธสีเขียวขนาดยักษ์ 4 ลูกซึ่งอยู่บนรถบรรทุกเทรลเลอร์ที่ดูออกแบบมาอย่างเหมาะเจาะถี่ถ้วน ในช่วงท้ายๆ ของขบวนสวนสนาม คือสิ่งที่เตะตาพวกผู้ชำนาญการทางทหารมากเป็นพิเศษ

“นี่ดูเหมือนกับเป็นขีปนาวุธไอซีบีเอ็มรุ่นใหม่” สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้อ้างคำพูดของนายทหารโสมขาวผู้หนึ่งที่มิได้มีการระบุชื่อ นายทหารผู้นี้บอกอีกว่าจรวดยักษ์สีเขียว 4 ลูกดังกล่าวนี้ ดูเหมือนมีความยาวกว่าขีปนาวุธ เคเอ็น-08 และ เคเอ็น-14 ซึ่งโสมแดงเคยนำมาอวดโฉมก่อนหน้านี้
<i>ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือนำออกมาอวดในการสวนสนามที่กรุงเปียงยางวันเสาร์ (15 เม.ย.) นี้ </i>
ปัจจุบันเปียงยางยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าตนเองมีขีปนาวุธไอซีบีเอ็มซึ่งสามารถใช้ปฏิบัติการได้อยู่ในครอบครอง ทว่า แชด โอแคร์รอลล์ กรรมการผู้จัดการของเอ็นเคนิวส์ ซึ่งมุ่งให้บริการข่าวเกี่ยวกับเกาหลีเหนือแบบผู้ชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า จรวดใหม่ๆ เหล่านี้อาจจะเป็นขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีปแบบใช้เชื้อพลิงเหลว หรือไม่ก็เป็นต้นแบบระยะแรกๆ ของขีปนาวุธเช่นนี้

ขีปนาวุธพิสัยไกลเหล่านี้สามารถจะกลายเป็น “ตัวเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ในทันทีที่มันถูกนำเข้าประจำการพร้อมใช้งาน” เขากล่าว แต่ก็บอกต่อไปว่าเกาหลีเหนือคงยังจะต้องมีกำหนดการทดสอบกันอีกยาวทีเดียว ก่อนที่จะมีการทดลองยิงขีปนาวุธชนิดนี้กันจริงๆ

นอกจากนั้น ขีปนาวุธแบบใช้เชื้อเพลิงเหลวยังมีจุดอ่อนสำคัญ ตรงที่ต้อง “ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ในการเติมเชื้อเพลิง และถ้ามีข่าวกรองว่าพวกเขากำลังทำเรื่องนี้อยู่ ก็จะง่ายดายมากๆ ที่จะหยุดยั้งมันก่อนที่มันจะถูกยิงขึ้นไป” เขาบอกกับเอเอฟพี

ขีปนาวุธไอซีบีเอ็มชนิดใช้เชื้อเพลิงแข็ง จะเป็น “ภัยคุกคามซึ่งยากแก่การป้องกันยิ่งกว่านักหนา” โอแคร์รอลล์กล่าว พร้อมกับปลอบว่า ความเสี่ยงในเรื่องนี้ยังคงห่างไกลออกไป “หลายๆ ปี”
<i>ขีปนาวุธที่พวกผู้เชี่ยวชาญทางทหารคาดว่าน่าจะเป็น เคเอ็น-08 ขณะสวนสนามผ่านจัตุรัสคิม อิลซุง ในกรุงเปียงยางวันเสาร์ (15 เม.ย.)  นักวิเคราะห์ทางทหารบางคนกล่าวว่า ขีปนาวุธนี้สักวันหนึ่งจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้นจนยิงไปถึงเป้าหมายต่างๆ ในภาคพื้นทวีปของสหรัฐฯ ทว่าจนถึงขณะนี้โสมแดงก็ยังไม่เคยยิงทดสอบจรวดรุ่นนี้ให้เห็นกันเลย </i>
กระนั้น คิม ดงยุป ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเกาหลีเหนือ แห่งสถาบันเพื่อตะวันออกศึกษา (Institute for Eastern Studies) ของเกาหลีใต้เตือนว่า เปียงยางอาจจะเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีชนิดนี้แล้ว

เขากล่าวกับยอนฮัปว่า เมื่อพิจารณาจากการที่เกาหลีเหนืออวดขีปนาวุธเหล่านี้ในลักษณะที่มันถูกบรรจุอยู่ในท่อยิงจรวด ตลอดจนดูจากรถบรรทุกที่ใช้ลำเลียงขนส่งขีปนาวุธเหล่านี้ บ่งบอกให้เห็นว่า โสมแดงกำลังพัฒนาเทคโนโลยีไอซีบีเอ็มแบบ “ยิงเย็น” (cold-launch) ซึ่งขีปนาวุธจะดีดตัวออกมาจากท่อยิงก่อนที่จะจุดระเบิดเครื่องยนต์ของจรวด ความสามารถเช่นนี้จะเปิดทางให้เกาหลีเหนือสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้รถบรรทุกที่สามารถยิงไอซีบีเอ็มซึ่งโสมแดงมีอยู่ในจำนวนจำกัดต้องเกิดความเสียหายในขณะยิง นอกจากนั้นยังทำให้ขีปนาวุธหลังจากยิงไปแล้วจะติดตามได้ยากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นการ “ยิงเย็น” ยังเปิดทางให้ยิงขีปนาวุธออกจากโรงเก็บ (silo) ที่มีการอำพรางเอาไว้ได้ด้วย

คิมกล่าวอีกว่า เกาหลีเหนือยังน่าที่จะกำลังพัฒนาไอซีบีเอ็มแบบใช้เชื้อเพลิงแข็ง และขีปนาวุธบางลูกซึ่งอยู่ภายในท่อยิงจรวดที่นำมาอวดในวันเสาร์ (15) อาจจะเป็นต้นแบบของจรวดแบบนี้ก็ได้

เกาหลีเหนือพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว

ในการบรรลุจุดมุ่งหมายสูงสุดของตนเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีซึ่งมีศักยภาพที่จะโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในสหรัฐฯ ได้นั้น เปียงยางไม่เพียงจำเป็นต้องปรับปรุงยกระดับพิสัยทำการของขีปนาวุธของตน แต่ยังต้องสามารถย่อส่วนระเบิดนิวเคลียร์จนนำมาติดตั้งเอาไว้บนส่วนปลายของหัวรบที่ใช้บรรจุในขีปนาวุธได้ด้วย

พวกผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับสมรรถนะทางด้านขีปนาวุธของเปียงยาง ถึงแม้ทั้งหมดต่างเห็นพ้องกันว่าโสมแดงสามารถคืบหน้าไปได้อย่างรวดเร็วในระยะไม่กี่ปีหลังๆ มานี้

เกาหลีเหนือได้นำเอาสิ่งที่คิดกันว่าคือขีปนาวุธไอซีบีเอ็มแบบ เคเอ็น-08 ออกมาสวนสนามรวม 3 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2012 และในปี 2015 โสมแดงยังได้เผยโฉมขีปนาวุธแบบที่ดัดแปลงปรับปรุงขึ้นมาใหม่ ได้แก่ เคเอ็น-14

ทั้ง เคเอ็น-08 และ เคเอ็น-14 ยังไม่เคยมีการยิงให้โลกภายนอกเห็นจะจะเลย ถึงแม้ตัวคิม จองอึน เคยกล่าวในคำปราศรัยเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2017 ของเขาว่า โสมเหนือกำลังอยู่ใน “ขั้นตอนท้ายๆ” ของการพัฒนาไอซีบีเอ็ม

ในการสวนสนามวันเสาร์ (15) ขีปนาวุธแบบท้ายสุดซึ่งติดตั้งอยู่บนยานบรรทุก 16 ล้อขนาดยักษ์ พวกนักวิเคราะห์บอกว่าอาจจะเป็น เคเอ็น-14 ซึ่งบรรจุพร้กพร้อมอยู่ในท่อสำหรับยิง
<i>ขีปนาวุธนำวิถีแบบยิงจากเรือดำน้ำ (SLBM) แบบพุกกุกซอง ซึ่งเกาหลีเหนือนำมาอวดในการสวนสนามเมื่อวันเสาร์ (15 เม.ย.) </i>
ขีปนาวุธอีกแบบหนึ่งที่เกาหลีเหนือนำออกมาอวดในครั้งนี้และได้รับความสนใจจากโลกภายนอกมากเป็นพิเศษ ได้แก่ขีปนาวุธทาสีขาวติดตั้งอยู่บนรถบรรทุกเทรลเลอร์สีน้ำเงิน ซึ่งถูกระบุว่าคือ “พุกกุกซอง” (Pukkuksong) ขีปนาวุธนำวิถีแบบยิงจากเรือดำน้ำ (submarine-launched ballistic missile หรือ SLBM) ซึ่งมีพิสัยทำการไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร

จรวดนำวิถีแบบที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำได้นี้ ทำให้เกาหลีเหนือมีความสามารถที่จะทำการโจมตีด้วยเรือซึ่งอาจแล่นไปอยู่ตรงไหนสักที่หนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ยากที่จะตรวจจับล่วงหน้า

นอกจากนั้น ขีปนาวุธแบบนี้ยังอาจลดประสิทธิภาพของระบบป้องกัน Terminal High Altitude Area Defense หรือ TTHAAD (ทาด) ซึ่งเป็นระบบยิงสกัดขีปนาวุธโจมตีของข้าศึกในบริเวณพิกัดตำแหน่งสูง ที่วอชิงตันกับโซลกำลังนำมาติดตั้งประจำการในเกาหลีใต้ และสร้างความเดือดดาลให้ปักกิ่ง ตลอดจนกระทั่งมอสโก เนื่องจาก “ทาด” มีระบบเรดาร์ที่สอดแนมเข้าไปไกลในดินแดนจีนและกระทั่งดินแดนตะวันออกไกลของรัสเซีย

ขีปนาวุธแบบใหม่ๆ ที่เปียงบางนำออกมาโชว์คราวนี้ ยังมีขีปนาวุธนำวิถีพิสัยกลาง (intermediate-range ballistic missile หรือ IRBM) แบบใหม่ที่เกาหลีเหนือเรียกชื่อว่า พุกกุกซอง 2 หรือรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า เคเอ็น-15 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นอัปเกรดขึ้นมาของขีปนาวุธเอสแอลบีเอ็ม

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงพุกกุกซอง-2 ซึ่งปรากฏว่าสามารถเคลื่อนที่ไปเป็นระยะทางกว่า 500 กิโลเมตรก่อนตกลงในทะเลญี่ปุ่น จากนั้นเปียงยางก็แถลงว่าการทดลองยิง “ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์”
<i>ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือนำออกมาอวดในการสวนสนามที่กรุงเปียงยางวันเสาร์ (15 เม.ย.) นี้ </i>
จรวดอื่นๆ ที่นำมาแสดง ยังได้แก่ ขีปนาวุธนำวิถี สกั๊ด-อีอาร์ (Scud-ER ballistic missiles), ขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ เคเอ็น-06 (KN-06 surface-to-air missiles), ขีปนาวุธต่อสู้เรือที่สามารถยิงได้ครั้งละหลายๆ ลูก (multiple-launch anti-ship missiles), และจรวดลูกปืนใหญ่ขนาด 300 มิลลิเมตร (300-mm artillery rockets)

“ของจริง” หรือ “ของปลอม”

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายกล่าวเตือนด้วยว่าจำเป็นต้องตรวจสอบข่าวสารข้อมูลต่างๆ อย่างรอบคอบ

โอแคร์รอลล์ชี้ว่า ส่วนปลายของขีปนาวุธลูกหนึ่งในกลุ่มสุดท้ายที่นำออกมาสวนสนามคราวนี้ “อยู่ในอาการสั่นคลอนแคลนอย่างเห็นชัด” ทำให้เกิดคำถามว่ามันเป็นของจริงหรือเป็นของปลอม

เนื่องจากขีปนาวุธรุ่นใหม่ๆ ที่โสมแดงนำมาอวดคราวนี้ เป็นต้นว่า ขีปนาวุธสีเขียวที่อาจเป็นไอซีบีเอ็มรุ่นใหม่ หรือกระทั่ง เอ็นเค-14 ล้วนแต่ถูกบรรจุเอาไว้ในท่อสำหรับยิงโดยที่ไม่ได้เห็นตัวขีปนาวุธแท้ๆ ลี อิลวู นักวิเคราะห์อาวุโสของ โคเรีย ดีเฟนซ์ เน็ตเวิร์ก (Korea Defence Network) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาคเอกชนในเกาหลีใต้ จึงบอกกับเอเอฟพีว่า “ผมสงสัยข้องใจว่าทั้งหมดเหล่านี้อาจจะเป็นเพียงของปลอมที่ทำขึ้นมาด้วยจุดมุ่งหมายให้โลกภายนอกเกิดความประทับใจ”

กำลังโหลดความคิดเห็น