เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับเอเอฟพีจากดามัสกัส ระบุว่าเหตุต้องสงสัยโจมตีด้วยอาวุธเคมีเป็นการ “จัดฉาก” เพื่อสร้างความชอบธรรมแก่สหรัฐฯสำหรับถล่มกองกำลังของเขา คาดอเมริการะดมยิงอีก แต่กร้าวไม่มีทางทำแสนยานุภาพลดลง
ผู้นำรายนี้กล่าวว่าแสนยานุภาพของกองทัพซีเรียไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และยอมรับว่าอาจต้องเผชิญเหตุโจมตีอีกในอนาคต พร้อมยืนยันว่ากองกำลังของเขาได้ส่งมอบสต๊อกอาวุธเคมีทั้งหมดไปเมื่อหลายปีก่อนและไม่เคยใช้อาวุธต้องห้ามดังกล่าวเลย
ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธ (12 เม.ย.) นับเป็นการออกมาแสดงความคิดเห็นของเขา นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีต้องสงสัยว่าเป็นอาวุธเคมี เข่นฆ่าพลเรือนหลายสิบชีวิตในเมืองข่น ชัยคุน ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏ “แน่นอน สำหรับเราแล้วมันคือการจัดฉาก 100 เปอร์เซ็นต์” เขากล่าว “ที่ฝังอยู่ในความจำของเราคือ พวกตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ สนิทสนมกับพวกก่อการร้าย พวกเขาจัดฉากเรื่องราวทั้งหมดเพื่อเป็นข้ออ้างสำหรับการโจมตี” อัสซาดซึ่งอยู่ในอำนาจมานาน 17 ปีระบุ
กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งมีสำนักงานในอังกฤษระบุว่า มีอย่างน้อย 87 ราย ในนั้นรวมถึงเด็ก 31 คน เสียชีวิตจากเหตุโจมตีดังกล่าว แต่อัสซาด ชี้ว่าหลักฐานนั้นมาจากกลุ่มสาขาของอัลกออิดะห์เพียงอย่างเดียว อ้างถึงอดีตเครือข่ายของพวกญิฮัดซึ่งเป็นหนึ่งในหลายกลุ่มที่ควบคุมจังหวัดอิดลิบ อันเป็นที่ตั้งของเมืองข่าน ชัยคุน
ภาพถ่ายหลังเกิดเหตุพบเห็นเหยื่อมีอาการชักและฟองฟูมปาก สร้างความตกตะลึงแก่คนทั้งโลก แต่อัสซาดยืนกรานว่า “ไม่ชัดเจนว่ามันเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะคุณจะตรวจสอบวิดีโออย่างไร? ปัจจุบันมีวิดีโอลวงโลกอยู่มากมาย เราไม่รู้ด้วยว่าพวกเด็กเสียชีวิตในข่าน ชัยคุนหรือไม่ หรือพวกเขาเสียชีวิตจริงหรือเปล่า”
อัสซาดอ้างว่าเมืองข่าน ชัยคุน ไม่มีคุณค่าทางยุทธศาสตร์และปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นแนวหน้าของการสู้รบ “เรื่องราวนี้ไม่น่าเชื่อถือเลย”
องค์การห้ามอาวุธเคมีได้เริ่มสืบสวนคำกล่าวหาเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีดังกล่าวแล้ว แต่รัสเซียในวันพุธ (12 เม.ย.) ขัดขวางมติของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติที่เรียกร้องให้ซีเรียร่วมมือกับการตรวจสอบ
ในเรื่องนี้ อัสซาดบอกว่าเขาจะยอมให้มีการสืบสวนใดๆจนกว่าจะเล็งเห็นความยุติธรรมและเมื่อมั่นใจว่าพวกประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดจะเข้าร่วมในคณะสืบสวนดังกล่าว เพื่อความเชื่อมั่นว่ามันจะไม่ถูกใช้สำหรับวัตถุประสงค์ทางการเมือง
อัสซาดย้ำมาหลายครั้งว่ากองกำลังของเขาได้ส่งมอบคลังอาวุธเคมีทั้งหมดแล้วในปี 2013 ภายใต้ข้อตกลงที่มีรัสเซียเป็นคนกลาง เพื่อหลบหลีกปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ
เหตุการณ์ที่ข่าน ชัยุน กระตุ้นให้สหรัฐฯ ปฏิบัติการทางทหารโดยตรงกับรัฐบาลอัสซาดนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น โดยยิงขีปนาวุธร่อน 59 ลูกถล่มฐานทัพอากาศเชย์รัต หลังจากเกิดเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีได้ 3 วัน
ประธานาธิบดีซีเรียคาดหมายว่าสหรัฐฯ อาจโจมตีอีกได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ ไม่ใช่แค่ในซีเรีย แต่ประกาศกร้าวว่ากองกำลังของเขาจะไม่แพ้พ่ายจากการโจมตีของอเมริกา “พลานุภาพการยิง แสนยานุภาพการโจมตีพวกก่อการร้ายของเราไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีนี้”