เอพี/เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น กล่าวเตือนในวันพฤหัสบดี (13 เม.ย.) ว่า เกาหลีเหนือเวลานี้น่าจะมีศักยภาพยิงขีปนาวุธซึ่งบรรจุก๊าซซารีน อันเป็นก๊าซทำลายประสาทที่ถือเป็นอาวุธเคมีอานุภาพร้ายแรง ไปถึงดินแดนประเทศญี่ปุ่นได้ เขาพูดเรื่องนี้ในขณะที่นานาชาติกำลังวิตกกังวลกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า รัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จแห่งนี้กำลังใกล้จะดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์หรือยิงขีปนาวุธครั้งใหม่
“มีความเป็นไปได้ที่ว่าเกาหลีเหนือมีศักยภาพพรักพร้อมอยู่แล้วที่จะยิงขีปนาวุธซึ่งใช้ก๊าซซารีนเป็นหัวรบ” อาเบะกล่าวเช่นนี้ต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติและการทูตของสภาสูง
อาเบะพูดเรื่องนี้ระหว่างตอบคำถามซึ่งสมาชิกในคณะกรรมาธิการสอบถามเกี่ยวกับความพร้อมของญี่ปุ่นในเวลาที่ภูมิภาคแถบนี้มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเช่นนี้ โดยที่หมู่เรือโจมตีนำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯกำลังแล่นมุ่งหน้าสู่คาบสมุทรเกาหลี ในเวลาเดียวกับที่เกาหลีเหนือเตรียมการสำหรับเฉลิมฉลองวาระวันคล้ายวันเกิด 105 ปีของคิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งประเทศซึ่งเป็นปู่ของคิม จองอึน ผู้นำโสมแดงคนปัจจุบัน ในวันเสาร์ (15) นี้
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้กล่าวถึงซีเรียซึ่งมีประชาชนเสียชีวิตไปหลายสิบคนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จากเหตุโจมตีที่กล่าวหากันว่าเป็นการทิ้งระเบิดก๊าซซารีน โดยเขาบอกวาญี่ปุ่นควรพิจารณาตัวอย่างที่เกิดขึ้นในซีเรียนี้อย่างจริงจัง และมองเห็นถึงความจำเป็นที่ญี่ปุ่นจะต้องเพิ่มมาตรการป้องปรามเกาหลีเหนือให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ตัวอาเบะเองไม่ได้บอกว่าเขาได้รับข่าวสารข้อมูลจากที่ไหนในเรื่องเกาหลีเหนือมีความสามารถที่จะยิงจรวดบรรจุก๊าซซารีนมายังญี่ปุ่นแล้ว
แต่ในเวลาต่อมา โยชิฮิเดะ ซุงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นซึ่งในระบบการเมืองของแดนอาทิตย์ถือเป็นตำแหน่งทรงอิทธิพลยิ่งรวมทั้งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโฆษกรัฐบาลด้วยนั้น ได้กล่าวอธิบายเพิ่มเติมในระหว่างการแถลงข่าวตามปกติของเขา
“นายกรัฐมนตรีของเรากำลังพูดอ้างอิงถึงสถานการณ์ในซีเรีย และแสดงการรับรู้รับทราบว่า เราไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือสามารถติดตั้งบรรจุ (ขีปนาวุธ) ด้วยอาวุธเคมี” ซุงะบอก
เขากล่าวต่อไปด้วยว่า “เกาหลีเหนือ … น่าที่จะมีสิ่งปลูกสร้างอยู่หลายแห่งซึ่งใช้ผลิตอาวุธเคมี และมีอาวุธเหล่านี้อยู่ในครอบครองแล้วเป็นจำนวนมาก”
เกาหลีเหนือ ซึ่งไม่ได้ร่วมลงนามในอนุสัญญาอาวุธเคมีระหว่างประเทศ ยังคงทำการผลิตอาวุธเคมีเรื่อยมานับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 และปัจจุบันประมาณการกันว่าอาจจะมีอาวุธประเภทนี้อยู่ในครอบครองมากถึง 5,000 ตัน ทั้งนี้ตามเอกสารสมุดปกขาวด้านกลาโหมของเกาหลีใต้ โดยที่มีรายงานด้วยว่าในคลังแสงของโสมแดงนั้นมีสารเคมีร้ายแรงต่างๆ อยู่ 25 ประเภท ซึ่งหนึ่งในนั้นคือก๊าซซารีน
พวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ถ้าเกาหลีใต้จะเปิดการโจมตีเกาหลีใต้แล้ว ก็น่าที่จะเล็งเป้าเล่นงานแนวป้องกันของโสมขาวด้วยอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพซึ่งทิ้งลงมาจากเครื่องบิน หรือยิงส่งไปด้วยขีปนาวุธ, ปืนใหญ่, และลูกระเบิด
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (12) อาเบะยังได้พูดว่า จากการที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ไม่ได้บอกปัดทางเลือกในการใช้กำลังทหารเข้าจัดการกับเกาหลีเหนือ “ความตึงเครียดจึงกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอนอยู่แล้ว” เขากล่าวเช่นนี้กับกลุ่มสมาชิกรัฐสภาจากพรรครัฐบาลของเขาซึ่งเรียกร้องต้องการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่พลเมืองสัญชาติญี่ปุ่นในเวลาที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา
ในส่วนความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือนั้น พวกนักวิจัยอเมริการะบุว่า จากภาพถ่ายดาวเทียมที่ถูกโพสต์เผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (13) แสดงให้เห็นถึง “กิจกรรมที่ทำกันอย่างต่อเนื่อง” ณ สถานทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ภาพถ่ายดาวเทียมเหล่านี้ถูกโพสต์อยูในเว็บไซต์ 38 North ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งของ สถาบันสหรัฐฯ-เกาหลี ที่สังกัดอยู่กับ วิทยาลัยพอล เอช. นิตซ์ เพื่อการระหว่างประเทศศึกษาชั้นสูง แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในเมืองบัลทิมอร์ รัฐแมริแลนด์
เท่าที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมักนิยมทำการทดลองอาวุธนิวเคลียร์หรือยิงขีปนาวุธ ระหว่างการจัดงานเฉลิมฉลองวันสำคัญของตน เฉกเช่นวันคล้ายวันเกิดของคิม อิลซุง ในวันเสาร์ (15) นี้
จากการที่สหรัฐฯแสดงแสนยานุภาพด้วยส่งหมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรเกาหลี ทำให้เกาหลีเหนือแถลงเตือนว่า จะทำการป้องกันตนเองเพื่อรับมือกับ “พฤติการณ์ก้าวร้าวรุกรานอย่างไม่รู้จักยั้งคิด”