รอยเตอร์ - หญิงสองคนที่ถูกกล่าวหาว่าสังหารพี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือปรากฏตัวในศาลเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ (13 เม.ย.) โดยสวมเสื้อเกราะกันกระสุน แต่การไต่สวนคดีการลอบสังหารที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ถูกระงับจนถึงเดือนพฤษภาคม
สิติ อิสยาห์ วัย 25 ปีจากกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย และ ดวน ถิเฮือง วัย 28 ปี จากภาคเหนือของเวียดนาม จะเผชิญกับโทษประหารชีวิตหากถูกตัดสินว่าฆ่าคิม จองนัม
หญิงสองคนนนี้ป้ายใบหน้าของคิมด้วยสารทำลายประสาทวีเอ็กซ์ สารเคมีที่องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นอาวุธทำลายล้างสูง ที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์
กำหนดการการไต่สวนคำขอของคณะอัยการในวันนี้ (13) ที่จะให้ หญิงสองคนนี้ถูกไต่สวนร่วมกันและให้คดีนี้ถูกย้ายไปยังศาลชั้นสูงกว่านี้ถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 30 พฤษภาคม
หัวหน้าคณะอัยการ มูฮาเหม็ด อิสคานดา อาห์หมัด กล่าวว่า มีความจำเป็นต้องใช้เวลารวมรวบข้อมูลจากหลายๆ หน่วยงานมากกว่านี้
ผู้ต้องสงสัยสองคนนี้ถูกนำตัวไปยังห้องพิจารณาคดีที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาคนละห้องในเมืองเซปัง ใช้เวลาขับรถจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 1 ชั่วโมง
หญิงสองคนนี้ถูกตั้งข้อหาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ร่วมกับชาย 4 คนซึ่งตำรวจมาเลเซียระบุว่าเป็นชาวเกาหลีเหนือที่ออกจากกัวลาลัมเปอร์ไปเปียงยางในวันเกิดเหตุ อินเตอร์โพลออกหมายแดงสำหรับชายทั้งสี่คน
อิสยาห์ และเฮือง บอกกับนักการทูตส่วนตัวของพวกเขาว่า พวกเขาเป็นถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือในการลอบสังหารที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ระบุว่าบงการโดยสายลับเกาหลีเหนือ
การสืบสวนคดีนี้ของมาเลเซียก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการทูตกับเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ต่างฝ่ายต่างห้ามคนของอีกฝ่ายเดินทางเข้าออกประเทศและสะบั้นความสัมพันธ์สายสัมพันธ์ใกล้ชิดของทั้งสอง
การห้ามการเดินทางถูกยกเลิกเมื่อเดือนที่แล้วหลังจากมีการทำข้อตกลงอนุญาตให้ศพของคิม จองนัม ถูกนำกลับเกาหลีเหนือและรับรองการปล่อยตัวพลเมืองชาวมาเลเซียเก้าคนที่ถูกคุมตัวในเปียงยาง
ชาวเกาหลีเหนือ 3 คนที่ทางการต้องการตัวมาสอบปกคำเกี่ยวกับคดีนี้ก็ได้รับอนุญาตให้ออกจากกัวลาลัมเปอร์ ฐานะส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยน