รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(10 เม.ย)ประธานาธิบดีเวเนซูเอลา นิโคลัส มาดูโร ได้รับเสียงสนับสนุนจากที่ประชุมซัมมิต โบลิวาร์ ทางเลือกสำหรับอเมริกา ALBA ที่มี 11 ชาติสมาชิกจากกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาและประเทศแถบแคริบเบียนเข้าร่วม ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ประกาศปฎิเสธความรุนแรงและการจัดฉากที่มีการวางแผนล่วงหน้าต่อพันธมิตรของเรา
รออยเตอร์รายงานวันนี้(11 เม.ย)ว่า กลุ่ม โบลิวาร์ ทางเลือกสำหรับอเมริกา ALBA (Bolivarian Alternatives for the Americas) ที่มี ฮูโก ชาเวซ อดีตผู้นำเวเนซูเอลา และฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำคิวบาจับมือก่อตั้งร่วมกันเมื่อ 13 ปีก่อนหน้านี้ ได้มีการประชุมซัมมิตเกิดขึ้นในกรุงฮาวานาในวันจันทร์(10 เม.ย)
ได้มีการออกแถลงการณ์หนุนหลังมาดูโร แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับประธานาธิบดีเวเนซูเอลา ที่ได้ใช้เวทีนี้กล่าวหาฝ่ายค้านในการจัดฉากความรุนแรงเพื่อปูทางให้ต่างชาติเข้าแทรกแซง
โดยข้อความในแถลงการณ์กลุ่ม โบลิวาร์ ทางเลือกสำหรับอเมริกา ALBA ชี้ว่า “ปฎิเสธความรุนแรงและการจัดฉากที่มีการวางแผนล่วงหน้าต่อพันธมิตรของเรา”
ทั้งนี้กลุ่ม โบลิวาร์ ทางเลือกสำหรับอเมริกา ALBA นั้นมี 11 ชาติลาตินอเมริกาและประเทศแถบแคริบเบียนเป็นชาติสมาชิก
ซึ่งในจุดนี้ ศ.ดร. วอลเดน เบลโล อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแห่งชาติฟิลิปปินส์และผู้อำนวยการโครงการศึกษาและปฏิบัติการงานพัฒนา (Focus on the Global South) ได้เคยกล่าวถึงกลุ่ม โบลิวาร์ ทางเลือกสำหรับอเมริกา ALBA ในงานบรรยายทางวิชาการที่ถูกจัดขึ้นโดย ศูนย์เศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและโครงการศึกษาและปฏิบัติการงานพัฒนา (โฟกัส) เมื่อวันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2549 ชี้ว่า ชาเบซ อดีตบิดาแห่งการปฎิวัติเวเนซุเอลา พยายามก่อตั้ง ALBA ขึ้นมาในการตอบโต้การครอบงำของอเมริกาที่ใช้เขตการค้าเสรีทวีปอเมริกา FTAA ซึ่งเป็นการขยายออกจาก NAFTA (เขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ)มีอิทธิพลเหนือแดนลาตินอเมริกา
ALBA คือ ทางเลือกสำหรับลาตินอเมริกา เป็นการเลียนคำ เพราะ FTAA ภาษาสเปนเรียก ALCA, ALBA เป็นทางเลือกการค้าของประชาชน ที่คิวบา โบลีเวีย และเวเนซูเอลาร่วมกันลงนาม ในปี 2003 (2546) เวเนซูเอลาจะช่วยนำน้ำมันให้คิวบา คิวบาจะส่งหมอไปเวเนซูเอลาและโบลีเวีย เป็นการแลกเปลี่ยนทั้งสินค้าและบริการของผู้ลงนามทั้งสามประเทศ สำหรับคิวบา สินค้าส่งออกที่ดีที่สุดคือ หมอ ดังนั้น จึงเป็นการทำให้สินค้าส่งออกเกิดผลบวกในเชิงการเมืองและสังคม รายงานบทความจาก ftawatch.org
โดยในครั้งนั้นศาสตราจารย์เบลโลได้กล่าว โดยอ้างอิงถึงคำกล่าวของอูโก ชาเบซ ที่ได้เคยกล่าวไว้ว่า กลุ่ม โบลิวาร์ ทางเลือกสำหรับอเมริกา ALBA “ไปไกลกว่าทุนนิยม เป็นวิสัยทัศน์ที่กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ยังคงเป็นส่วนของการริเริ่มอยู่ แต่ชัดเจนคือไม่ใช่การค้าเสรีและไม่เป็นไปตามกติกาของตลาดหรือทุนนิยม”
และศาสตราจารย์เบลโลได้อธิบายถึง องค์ประกอบของ ALBA นั้นประกอบไปด้วย
1. Petro Caribe เป็นข้อตกลงว่าประเทศในคาริบเบียนจะได้รับการลดราคาน้ำมันนำเข้า 40% จากเวเนซูเอลา
2. Petro Sur เป็นการแลกเปลี่ยนสินค้าแทนที่จะจ่ายเป็นเงินสด อาร์เจนตินาจะจ่ายเป็นวัวให้เวเนซูเอลา แทนที่จะจ่ายเป็นเงิน โบลีเวียจะซื้อน้ำมันบางส่วนโดยใช้ถั่วเหลืองตามแต่จะตกลง จึงเป็นการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน
3. Telesur เป็นเครือข่ายการสื่อสารทางโทรทัศน์ที่ต่อต้านโทรทัศน์ที่คุมการสื่อสารของโลกอย่าง CNN
4. Banco del Sur เป็นความพยายามในการสร้างธนาคารทางเลือกเพื่อทำหน้าที่แทนธนาคาร Inter American Development Bank ซึ่งคล้ายๆกับ Asian Development Bank ในเอเชีย
รอยเตอร์รายงานต่อถึงบรรยากาศในที่ประชุมซัมมิตว่า ทางกลุ่ม โบลิวาร์ ทางเลือกสำหรับอเมริกา ALBA ยังได้โจมตีกลุ่มองค์การรัฐอเมริกัน OAS (The Organization of American States) ที่มีฐานอยู่ในวอชิงตัน ซึ่งที่ผ่านมาทางกลุ่มวิจารณ์มาดูโรว่า มีความพยายามบ่อนทำลายต่อรัฏฐาธิปัตย์ ของเวเนซุเอลา
ซึ่งประธานของกลุ่มองค์การรัฐอเมริกัน OAS หลุยส์ อัลมาโกร(Luis Almagro) ออกมาเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปเวเนซุเอลา เพื่อนำประชาธิปไตยกลับมาอีกครั้ง
รอยเตอร์รายงานว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่บรรดากลุ่มประเทศแดนลาตินอเมริกาเริ่มทิ้งการเมืองประชานิยมฝ่ายซ้าย (ตามคำศัพท์ของศาสตราจารย์วอลเดน เบลโล) และหันหน้ามุ่งสู่แนวการเมืองสายกลาง และเป็นไปในทิศทางเดียวที่กลุ่มโบลิวาร์ ทางเลือกสำหรับอเมริกา ALBA ที่ก่อตั้งโดยคิวบาและเวเนซุเอลา ได้เสียเพื่อนที่ทรงอิทธิพลในภูมิภาค บราซิล และอาร์เจนตินา
ทั้งนี้ศาสตราจารย์เบลโลอธิบายถึงประชานิยมได้อย่างน่าสนใจว่า โดยให้คำนิยามว่า “เป็นแนวทางการเมืองและโครงการทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับบารมีของปัจเจกบุคคล” ที่เขาหรือเธอมีแนวโน้มที่จะเข้าถึงประชาชนต่างชนชั้น จะมีโครงการสำหรับคนงาน คนยากจนในสลัม คนชั้นกลาง คนชนบทที่ยากจน นี่คือลักษณะบุคลิกของผู้นำที่เข้าถึงชนชั้นต่างๆได้ในขณะเดียวกันก็แยกอภิสิทธิ์ชนออกไป เนื่องจากว่า บรรดาอภิสิทธิ์ชนเหล่านี้จะทำงานเคียงคู่กับอเมริกา และทำให้ประเทศส่วนใหญ่ในลาตินอเมริกานั้นต่อสหรัฐฯ
รอยเตอร์รายงานต่อว่า ซึ่งในสุนทรพจน์ของมาดูโรช่วงเวลา 1 ช.มครึ่งได้กล่าวว่า ตัวเขานั้นเปิดเสมอในการการเจรจาหาทางออก แต่ทางฝ่ายค้านเวเนซูเอลาไม่ตอบสนอง
“ทางเดียวที่จะเข้าสู่สันติภาพได้โดยการผ่านทางคำพูด และการเจรจาเท่านั้น” ประธานาธิบดีเวเนซูเอลาแถลง และกล่าวต่อว่า “แต่ทว่าในความเป็นจริง คำสั่งนั้นออกมาจากวอชิงตัน ประกาศการเจรจาเป็นศูนย์ ในเวเนซุเอลา เพื่อที่ทำให้ประเทศของเราระเบิด และเปิดทางให้ต่างชาติเข้าแทรก”
ทั้งนี้ฝ่ายค้านเวเนฯได้ออกมาโจมตีการาคัสในความเป็นเผด็จการใช้กำลังเพื่อสลายการชุมนุมในวันจันทร์(10 เม.ย) โดยชี้เหตุการณ์ที่มีการยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปด้านในของคลินิกแห่งหนึ่ง