xs
xsm
sm
md
lg

ซีอีโอ "ยูไนเต็ด แอร์ไลน์" หนุนหลังลูกน้องกรณีอัดผู้โดยสาร-จับลากพื้นแย่งที่นั่งให้พนักงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ – สายการบิน "ยูไนเต็ด แอร์ไลน์" ถูกชาวเน็ตถล่มเละในวันจันทร์ (10) จากกรณีส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 คนขึ้นไปลากผู้โดยสารที่ดูเหมือนจะเป็นคนเอเชียลงจากเครื่อง สาเหตุมาจากการที่สายการบินขายตั๋วเกิน ทำให้ไม่มีที่นั่งสำหรับพนักงานของสายการบิน และไม่มีผู้โดยสารคนใดสมัครใจจะสละที่นั่งให้ จึงใช้กำลังเข้าบังคับจนผู้โดยสารหมดสติเลือดไหลเต็มปาก ล่าสุดเจ้าหน้าที่รายหนึ่งถูกพักงานระหว่างรอสอบสวน

วิดีโอที่โพสต์โดยผู้โดยสารบนเครื่องเผยให้เห็นผู้โดยสารชายคนหนึ่งร้องเสียงดังขณะถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 คนรุมกระชากจากที่นั่งบนเที่ยวบิน 3411 ของสายการบิน "ยูไนเต็ด แอร์ไลน์" ลากไปตามพื้นออกจากเครื่อง ก่อนที่เครื่องบินลำดังกล่าวจะออกจากท่าอากาศยานนานาชาติชิคาโก โอแฮร์ มุ่งหน้าสู่หลุยส์วิลล์เมื่อวันอาทิตย์ (9)

ชายคนดังกล่าวที่ดูเหมือนเป็นคนเอเชีย ถูกลากจากที่นั่งไปตามทางเดินในเครื่องในสภาพนอนหงาย มีเลือดออกจากปาก แว่นหลุดจากตา เสื้อถลกขึ้นเหนือเอว และคลิปเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจอย่างรุนแรงในโซเชียลมีเดีย ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองในช่วงเวลาไม่ถึงเดือนที่ยูไนเต็ดถูกวิจารณ์เละเทะจากการปฏิบัติต่อผู้โดยสาร

แม้ในตอนแรกจะมีการออกมาขอโทษทางทวิตเตอร์ แต่ในจดหมายเวียนถึงพนักงานสายการบินของ "ออสการ์ มูนอซ" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ของยูไนเต็ด ไม่ได้กล่าวคำขอโทษสำหรับพฤติกรรมที่พนักงานสายการบินปฏิบัติต่อผู้โดยสาร แต่กลับระบุว่า ผู้โดยสารผู้นั้นแสดงท่าทีก้าวร้าวต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

มูนอซบอกว่า สายการบินได้เรียนรู้บทเรียนหลายอย่างจากสถานการณ์นี้ แต่ยืนยันสนับสนุนการกระทำของพนักงาน “อย่างเต็มที่”

ซีอีโอยูไนเต็ดแจกแจงในจดหมายเวียนว่า พนักงานประกาศหาผู้สมัครใจสละที่นั่งแต่ไม่มีผู้โดยสารคนใดให้ความร่วมมือ จึงต้องปฏิบัติตามกระบวนการปฏิเสธการเดินทางโดยไม่สมัครใจ (ซึ่งรวมถึงการเสนอค่าชดเชย 1,000 ดอลลาร์) แต่เมื่อพนักงานเข้าไปอธิบายพร้อมทั้งกล่าวขอโทษกับผู้โดยสารคนหนึ่งที่ถูกปฏิเสธการเดินทาง ผู้โดยสารชายผู้นั้นกลับขึ้นเสียงและไม่ยอมปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงาน

ทางด้านกรมการบินพาณิชย์ชิคาโกแถลงว่า เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์วิธี และถูกสั่งพักงานระหว่างรอการสอบสวน ขณะที่กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ เผยว่า กำลังตรวจสอบว่า ยูไนเต็ดปฏิบัติตามกฎการจองเกินที่ระบุให้สายการบินกำหนดแนวทางในการปฏิเสธการเดินทางของผู้โดยสาร หากผู้โดยสารไม่สมัครใจสละที่นั่งหรือไม่

โฆษกกระทรวงคมนาคมระบุว่า แม้กฎหมายอนุญาตให้สายการบินปฏิเสธการเดินทางของผู้โดยสารที่ไม่สมัครใจจากเที่ยวบินที่มีการจองเกินได้ แต่สายการบินก็มีความรับผิดชอบในการจัดลำดับความสำคัญในการขึ้นเครื่องอย่างเป็นธรรม

เหตุการณ์นี้กลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดบนทวิตเตอร์ในวันจันทร์ (10) หลังจากผู้คนมากมายระดมวิพากษ์วิจารณ์สายการบินรายนี้

ไทเลอร์ บริดเจส ผู้โดยสารคนหนึ่งที่ถ่ายคลิปไว้และโพสต์บนทวิตเตอร์เล่าว่า ผู้โดยสารชายที่ถูกลากออกจากที่นั่ง บอกพนักงานของยูไนเต็ดว่า เขาเป็นหมอและต้องกลับไปดูแลคนไข้

ขณะที่สายการบินแจ้งว่า ต้องขออาสาสมัครสละที่นั่ง เนื่องจากมีพนักงานที่ต้องเดินทางไปหลุยส์วิลล์เพิ่ม

ผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายคนโจมตีวิธีจัดการสถานการณ์ของยูไนเต็ด นอกจากนั้นในคลิปของบริดเจดส์ยังมีผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งถามพนักงานว่า “สายการบินเช่ารถให้นักบินขับไปหลุยส์วิลล์เองไม่ได้หรือ”

ผู้โดยสารอีกคนเขียนข้อความทางทวิตเตอร์ว่า “ไม่มีใครอาสาลงจากเครื่อง ยูไนเต็ดจึงต้องเลือกผู้โดยสารเอง และพวกเขาเลือกหมอชาวเอเชียกับภรรยา เพียงเพื่อให้พนักงานของสายการบินได้นั่งแทน”

นอกจากนี้ยังมีคลิปที่เผยให้เห็นคุณหมอคนนี้ที่ยังมีสภาพกระเซอะกระเซิงจากการถูกลาก กลับไปยังห้องโดยสารและพยายามเกาะม่านด้านหลังเครื่องแน่นพร้อมพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า “ฆ่าผมเลยสิ” และ “ผมต้องกลับบ้านนะ”

สังคมออนไลน์พากันวิจารณ์ความเหมาะสมในการไล่ลูกค้าที่จ่ายเงินครบให้ลงจากเครื่อง เพื่อให้พนักงานสายการบินได้ที่นั่งบนเครื่องบินแทน บางคนยังตั้งคำถามว่า ผู้โดยสารคนนั้นจะถูกกระชากลากถูราวกับเป็นตุ๊กตาผ้าขี้ริ้วหรือไม่ ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนเอเชีย

ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว เด็กหญิงสองคนถูกปฏิเสธการเดินทางจากเดนเวอร์ไปยังมินนิอาโอลิสเนื่องจากสวมเลกกิ้ง โดยยูไนเต็ดอ้างว่า เด็กทั้งคู่ถือตั๋วโดยสารพิเศษสำหรับพนักงานและครอบครัว จึงต้องปฏิบัติตามกฎการแต่งกายของสายการบินอย่างเคร่งครัด




กำลังโหลดความคิดเห็น